ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของ ครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

ชื่อเรื่อง การนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของ

ครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

ผู้วิจัย นายกรุงศรี ศิริปะกะ

หน่วยงาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

ปีที่พิมพ์ 2563 จำนวนหน้า 324 หน้า

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 และ 2) ศึกษาผลการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 โดยใช้วิจัยเชิงปฏิบัติการ 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การวางแผน (Planning) 2) การปฏิบัติ (Action) 3) การสังเกต (Observation) และ 4) การสะท้อนผล (Reflection) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มผู้ร่วมศึกษา และกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้มาทั้งการสุ่มแบบง่าย และการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เอกสารประกอบ แบบวัดความรู้ครู แบบประเมินความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามผู้เกี่ยวข้องและแบบสัมภาษณ์นักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

จากการศึกษาเอกสาร วรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า การนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 มี 2 องค์ประกอบ คือ 1) การนิเทศแบบบูรณาการ 2) การนิเทศแบบเน้นการพัฒนา ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1) การวิเคราะห์คุณค่าของตน (Analysis of Self - value) 2) กำหนดผลเพื่อพัฒนา (Define goals to develop) 3) สรรหาวิทยาการ (Seek of knowledge) 4) ปฏิบัติงานเข้มแข็ง (Work Hard) 5) ร่วมแสดงผลงาน (Be show of product)

การนำสู่ปฏิบัติ มี 4 ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกตและการสะท้อนผล หลังจากนั้นสนทนากลุ่มผู้วิจัยและเครือข่ายผู้วิจัย จำนวน 4 คน เพื่อกำหนดแนวทางการนำสู่การปฏิบัติผ่าน 4 ขั้นตอน (การวางแผน การปฏิบัติ การสังเกตและการสะท้อนผล) และสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย (เอกสารประกอบ แบบวัดความรู้ครู แบบประเมินความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนภาษาไทย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามผู้เกี่ยวข้องและแบบสัมภาษณ์นักเรียน) มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ

2. ผลการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

1) ผลการเปรียบเทียบความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก วงรอบที่ 1-2 พบว่า

วงรอบที่ 1 ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 17 ชั่วโมง และวงรอบที่ 2 ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 30 ชั่วโมง

2) ผลการศึกษาผลการจัดกิจกรรมพัฒนาครู

2.1) ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 จากข้อมูลการสัมภาษณ์และบันทึกการสังเกตทำให้ผู้ร่วมการศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการดำเนินงานต่างๆ สามารถกำหนดกระบวนการดำเนินงานตามแผนงาน มีหลักการแนวทางและวิธีการที่ชัดเจนและนำข้อมูลที่ได้จากการประชุมเชิงปฏิบัติการนี้มาประชุมปรึกษาหารือวิเคราะห์วิจารณ์ร่วมกันสรุปรายงานต่อที่ประชุมเพื่อวางแผนพัฒนาต่อไป ผลการวิจัยเป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าผู้ร่วมวิจัยได้รับการพัฒนาจนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีกระบวนการในการปฏิบัตินำไปสู่ความมั่นใจในการพัฒนาครู

2.2) ผลการเปรียบเทียบความรู้ของครูผู้สอนก่อนและหลังการพัฒนาตามกระบวนการ

ที่พัฒนาขึ้น พบว่า ครูผู้สอนทั้ง 6 คน เข้าร่วมการอบรมปฏิบัติการครบทั้ง 2 วัน สามารถทำใบงานหน่วยที่ 1-9 ได้ถูกต้องและคะแนนวัดความรู้ของครูหลังการพัฒนาด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 16.00 คิดเป็นร้อยละ 80.00 และเมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนวัดความรู้ของครูก่อนการพัฒนาและหลังพัฒนา พบว่า มีค่าเท่ากับ 38.89/80.00 แสดงว่า หลังการพัฒนาครูมีความรู้เพิ่มขึ้น

2.3) ผลการเปรียบเทียบการนิเทศ ติดตามผลครูในการนำความรู้สู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียน

วงรอบที่ 1-2 พบว่า วงรอบที่ 1 มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.38 ครูทำไม่ได้หรือต้องการพัฒนามากและวงรอบที่ 2 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.60 ครูทำได้ดีมากและเมื่อเปรียบเทียบกับผลการนิเทศ ติดตามผลครูในการนำความรู้สู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียนวงรอบที่ 1 และวงรอบที่ 2 พบว่า มีค่าเท่ากับ 1.38/2.60 แสดงว่า วงรอบที่ 2 ครูนำความรู้สู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น

3) ผลการศึกษาการนำสู่การปฏิบัติ

3.1) ผลการประเมินความสามารถของครูด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ครั้งที่ 1/2 เท่ากับ

38.70/80.68 แสดงว่า หลังรับการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาครูมีความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพิ่มขึ้น

3.2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน วงรอบที่ 1-2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ครั้งที่ 1/2 เท่ากับ 38.95/81.40 แสดงว่า หลังการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนที่ได้รับการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาแล้วส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น

4) ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องต่อการนิเทศแบบคลินิกเน้นพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูผู้สอนภาษาไทยระดับประถมศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด และผลการสังเคราะห์ความต้องการให้มีการนิเทศบ่อยครั้งเพียงใด ตามความคิดของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน พบว่า ต้องการให้นิเทศการสอนครูให้มีความถี่มากที่สุด โดยดูจากการทำงานร่วมกันของครูผู้สอนกับศึกษานิเทศก์เริ่มจากการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ทีมสังเกตชั้นเรียนและศึกษานิเทศก์เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน วางแผนการทำงานร่วมกัน หลังจากนั้นร่วมกันออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ นัดหมายสังเกตการสอน สะท้อนผล และมีการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ในขณะเดียวกันเมื่อออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ในเนื้อหาต่อไปอีก นัดวันสังเกตการสอน สะท้อนผล ซึ่งการทำงานร่วมกันครูผู้สอนคนหนึ่งๆ จะใช้วงรอบในการทำงานร่วมกันมากหรือน้อยครั้ง ขอให้ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและทีมสังเกตชั้นเรียนร่วมกันสรุปผลว่า พฤติกรรมการสอนของครู การบริหารจัดการชั้นเรียนดีมากน้อยเพียงใด หากครูมีพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้และการบริหารจัดการชั้นเรียนผ่านเกณฑ์ สามารถหยุดวงจรการนิเทศกับครูผู้สอนรายนั้นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูผู้สอนและทีมสังเกตชั้นเรียน และนักเรียนต้องการให้มีผู้สังเกตการสอนในชั้นเรียน เพราะทำให้บรรยากาศของการเรียนดีขึ้น ครูสอนได้ดีขึ้น ครูมีสื่อ มีแผนภูมิ มีบัตรภาพ มีบัตรคำ ครูมีการสอนผ่านสื่อหรือจอคอมพิวเตอร์ ครูใช้สื่อการสอนอย่างหลากหลาย ทำให้เข้าใจบทเรียนยิ่งขึ้น ครูมีใบงาน/ใบกิจกรรมให้ทำ มีเกม มีเพลงให้ร้อง ได้ทำท่าประกอบเพลง ส่วนนักเรียนจะนั่งอยู่กับที่ ไม่เดินเพ่นพ่าน ได้ทำงานกลุ่ม ได้ช่วยเหลือกันในการทำงาน ได้แก้ปัญหาด้วยตนเอง ได้นำเสนอหน้าชั้นเรียน ได้ฝึกพูดนำเสนอผ่านไมโครโฟน นักเรียนจะรู้สึกเกร็งและตื่นเต้นบ้างเมื่อมีคนอื่นมานั่งสังเกตการสอน เมื่อมีคนอื่นมาเดินดูขณะเด็กทำงาน บางครั้งก็รู้สึกกดดันกลัวทำไม่ได้ กลัวทำให้ผู้ปกครองขายหน้าเวลานำเสนองานแล้วไม่ได้ผลดี ครูจัดการเรียนรู้สนุก นักเรียนได้แสดงออก ทำให้มีความสุข อยากให้มีคนมานั่งหลังห้อง ดูครูสอน เพราะทำให้นักเรียนไม่เล่น ไม่คุยกัน นักเรียนได้เรียนรู้เต็มที่ และอยากศึกษานิเทศก์มานั่งหลังห้องบ่อยครั้งขึ้นและมาอย่างต่อเนื่อง

โพสต์โดย กรุง : [26 ก.ย. 2565 เวลา 06:43 น.]
อ่าน [1780] ไอพี : 1.20.217.115
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,638 ครั้ง
รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC
รายได้ และ ค่าครองชีพ AEC

เปิดอ่าน 6,365 ครั้ง
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?
ระบบโทรทัศน์ในประเทศไทย มีระบบใดบ้าง?

เปิดอ่าน 16,915 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

เปิดอ่าน 3,574 ครั้ง
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส

เปิดอ่าน 51,346 ครั้ง
คำบุพบท
คำบุพบท

เปิดอ่าน 17,221 ครั้ง
มะละกอ กินเท่าไหร่ไม่เคยพอ
มะละกอ กินเท่าไหร่ไม่เคยพอ

เปิดอ่าน 13,367 ครั้ง
ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต นิยายซีไรต์ปี 58
ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต นิยายซีไรต์ปี 58

เปิดอ่าน 12,183 ครั้ง
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้
ทานผลไม้ ก็ช่วยป้องกันผมร่วงก่อนวัยได้

เปิดอ่าน 16,171 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology

เปิดอ่าน 15,165 ครั้ง
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก

เปิดอ่าน 12,963 ครั้ง
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร

เปิดอ่าน 26,822 ครั้ง
ดูลายมือ "เส้นวาสนา"
ดูลายมือ "เส้นวาสนา"

เปิดอ่าน 11,487 ครั้ง
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย

เปิดอ่าน 29,233 ครั้ง
สัมภาษณ์ ดร.พิษณุ ตุลสุข เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. "ปัญหาหนี้สินครู"
สัมภาษณ์ ดร.พิษณุ ตุลสุข เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. "ปัญหาหนี้สินครู"

เปิดอ่าน 27,381 ครั้ง
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"

เปิดอ่าน 10,652 ครั้ง
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?
เปิดอ่าน 48,830 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)
เปิดอ่าน 13,771 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ตำแหน่งครู)
เปิดอ่าน 25,367 ครั้ง
ยาสามัญประจำบ้าน
ยาสามัญประจำบ้าน
เปิดอ่าน 18,043 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ