ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา โรงเรียนอนุบาลเลย จังหวัดเลย Development of Learning Management Model for Enha

การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียน

ในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา โรงเรียนอนุบาลเลย จังหวัดเลย

Development of Learning Management Model for Enhancing Student Identity in the 21st Century based on King’s Science , Anubanloei School, Loei Province.

ณสรวง ก้อนวิมล*

Nasuang Konwimon

การวิจัย เรื่องการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา โรงเรียนอนุบาลเลย จังหวัดเลย ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา 2) เพื่อสร้างและประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา และ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา การวิจัยครั้งนี้ ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methods Research : MMR) ดำเนินการวิจัยเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา ระยะที่ 2 การสร้างและประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา และระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา ประชากรประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู ผู้ปกครองและนักเรียนทั้งหมด จำนวน 3,531 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ แบบสำรวจ ประเด็นการสนทนากลุ่ม และแบบประเมิน สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา พบว่า

1.1 สภาพปัจจุบัน การบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียน โดยรวมอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน (x̄=3.35, S.D. = 0.62)

1.2 ความต้องการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา ประกอบด้วย 1)อัตลักษณ์ผู้เรียน ได้แก่ มารยาทดี มีวินัย ใส่ใจจิตอาสา ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ และพลเมืองดิจิทัล และ 2)กระบวนการพัฒนา 7 ด้าน คือ (1) ด้านการนำองค์กร (2) ด้านระบบนิเวศการเรียนรู้ (3) ด้านแผนการพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียน (4) ด้านการจัดการเรียนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ (5) ด้านนวัตกรรมและจัดการความรู้ (6) ด้านความปลอดภัยและคุ้มครองสิทธิพื้นฐาน และ (7) ด้านธรรมาภิบาลการบริหารจัดการเรียนรู้ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.76, S.D. = 0.54)

2. ผลการสร้างและประเมินรูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา พบว่า

2.1 รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา มีองค์ประกอบ 9 ส่วน ได้แก่ 1) ชื่อ 2) หลักการ 3) วัตถุประสงค์ 4) กระบวนการ 5) ผลผลิต 6) ผลลัพธ์ 7) ผลกระทบ 8) ข้อมูลย้อนกลับ และ 9) ปัจจัยแห่งความสำเร็จ

2.2 ผลการประเมินด้านความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.66, S.D. = 0.30)

3. ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างมีความสุขบนพื้นฐานศาสตร์พระราชา ปีการศึกษา 2563 และ ปีการศึกษา 2564จากข้อค้นพบและการสะท้อนผลการพัฒนการใช้รูปแบบในปีการศึกษา 2563 มีการปรับเพิ่มปัจจัยแห่งความสำเร็จ (Key Success Factor : KSF) พบว่า

3.1 ผลผลิต (Outputs)

1) ผลการพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียน... “มารยาทดี มีวินัย ใส่ใจจิตอาสา ภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ และพลเมืองดิจิทัล” ปีการศึกษา 2563 นักเรียนผ่านเกณฑ์ความพึงพอใจ ภาพรวมอยู่ในระดับดี - ดีมาก ร้อยละ 72.61 และปีการศึกษา 2564 นักเรียนผ่านเกณฑ์ความพึงพอใจ ภาพรวมอยู่ในระดับดี – ดีมาก ร้อยละ 89.12

2) ผลการประเมินคุณภาพภายใน (SAR)

(1) ปีการศึกษา 2563 ระดับปฐมวัย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 95.40 คะแนน) มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 97.00 คะแนน) และมาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 95.00 คะแนน) และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 95.13 คะแนน) มาตรฐาน ที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 97.00 คะแนน) และมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 97.00 คะแนน)

(2) ปีการศึกษา 2564 ระดับปฐมวัย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 97.43 คะแนน) มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 98.17 คะแนน) และมาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 97.00 คะแนน) และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 97.50 คะแนน) มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 98.69 คะแนน) และมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (คะแนนเฉลี่ย 98.50 คะแนน)

3.2 ผลลัพธ์ (Outcomes) ระดับความพึงพอใจการใช้รูปแบบการบริหารจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 บนพื้นฐานศาสตร์พระราชา พบว่า ปีการศึกษา 2563 ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.49, S.D. = 0.58) และ ปีการศึกษา 2564 ระดับความพึงพอใจ ภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (x̄=4.55, S.D. = 0.62) โดยมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจเพิ่มขึ้น จากปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 0.06

3.3 ผลกระทบ (Impacts) จากความสำเร็จการดำเนินงานเพื่อพัฒนาอัตลักษณ์ผู้เรียนแบบองค์รวมเชิงบูรณาการ ตอบสนองทิศทางนโยบาย... “สพฐ.วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ” และวิสัยทัศน์... “เสมอภาคทางการศึกษา พัฒนาคุณธรรมนำความรู้ เชิดชูความเป็นไทย ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เป็นศูนย์รวมแหล่งเรียนรู้ มุ่งสู่มาตรฐานสากล”แผนพัฒนาการศึกษา ระยะ 4 ปี (พ.ศ.2563-2566) โดยได้รับรางวัล “โรงเรียนวิถีพุทธพระราชทาน และรางวัลระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน”ในปีการศึกษา 2564 และตอบโจทย์การพัฒนาจังหวัดเลย ภายใต้ยุทธศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) สร้างความภาคภูมิใจ สถานศึกษาเป็นที่ยอมรับด้านการมีส่วนร่วมภาคีเครือข่ายพัฒนาการศึกษา ในลักษณะ... “หุ้นส่วนพัฒนาการศึกษา” (Education Development Partnership) เป็นต้นแบบเชิงนวัตกรรม และกรณีศึกษาการประยุกต์ใช้ของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา สถานศึกษา หน่วยงานทางการศึกษา และองค์กรวิชาชีพทางการศึกษา

คำสำคัญ : รูปแบบ,อัตลักษณ์ผู้เรียน,ความสุข,ศาสตร์พระราชา

______________________________________

*ดร.ณสรวง ก้อนวิมล Dr.Nasuang Konwimon

ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเลย จังหวัดเลย

โพสต์โดย ณสรวง : [26 ก.ย. 2565 เวลา 08:30 น.]
อ่าน [100720] ไอพี : 27.145.11.163
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,199 ครั้ง
เดนมาร์ก แชมป์โลกความสุข
เดนมาร์ก แชมป์โลกความสุข

เปิดอ่าน 19,790 ครั้ง
กินอาหารต้านแก่แบบไทยๆ
กินอาหารต้านแก่แบบไทยๆ

เปิดอ่าน 16,516 ครั้ง
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา

เปิดอ่าน 34,860 ครั้ง
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต
กราฟิกไฟล์สำหรับอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 25,314 ครั้ง
องค์ประกอบของระบบกราฟิก
องค์ประกอบของระบบกราฟิก

เปิดอ่าน 13,921 ครั้ง
สำหรับท่านที่พลาด คลิปเต็ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" พลาดท่าพ่ายนักชกรัสเซีย โดนศอกเลือดอาบ
สำหรับท่านที่พลาด คลิปเต็ม "บัวขาว บัญชาเมฆ" พลาดท่าพ่ายนักชกรัสเซีย โดนศอกเลือดอาบ

เปิดอ่าน 25,341 ครั้ง
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่
ทำไมดวงอาทิตย์ตอนเช้าหรือตอนเย็นจึงดูดวงใหญ่

เปิดอ่าน 21,837 ครั้ง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง
ไม่อยากเสียเงินฟรี ต้องอ่าน ก่อนติดฟิล์มกระจกบ้านต้องรู้อะไรบ้าง

เปิดอ่าน 27,558 ครั้ง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง
เกษตรกรมือใหม่ต้องรู้ ระบบน้ำเลี้ยงมีความสำคัญมากยังไง

เปิดอ่าน 14,896 ครั้ง
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน
ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน

เปิดอ่าน 55,685 ครั้ง
สักวา
สักวา

เปิดอ่าน 219,204 ครั้ง
เทคนิคการคิดเลขเร็ว
เทคนิคการคิดเลขเร็ว

เปิดอ่าน 8,610 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน
ปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผล ต้องตั้งต้นจากผลการประเมิน

เปิดอ่าน 13,150 ครั้ง
ดูให้รู้ : โรงเรียนสร้างเด็กสุดยอดผู้นำ
ดูให้รู้ : โรงเรียนสร้างเด็กสุดยอดผู้นำ

เปิดอ่าน 13,294 ครั้ง
โรค Computer Syndrome
โรค Computer Syndrome

เปิดอ่าน 10,503 ครั้ง
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
จิตตานุปัสสนาที่ควรรู้
เปิดอ่าน 10,658 ครั้ง
เปิดศักราช 2559 ต้อนรับ "AEC" จุดเปลี่ยนอาเซียนสู่ก้าวใหม่ "ค้าบริการ-นวัตกรรม"มาแรง
เปิดศักราช 2559 ต้อนรับ "AEC" จุดเปลี่ยนอาเซียนสู่ก้าวใหม่ "ค้าบริการ-นวัตกรรม"มาแรง
เปิดอ่าน 11,599 ครั้ง
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่
ปวดท้องตรงไหน เป็นอะไรกันแน่
เปิดอ่าน 15,180 ครั้ง
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี '53
เปิดอ่าน 22,461 ครั้ง
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน
ประโยชน์ของ เมล็ดดอกทานตะวัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ