ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ โดยใช้แนวคิดห้องเรียนกลับทาง ร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาและความรับผิดชอบต่อการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ โดยใช้แนวคิดห้องเรียนกลับทาง ร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาและความรับผิดชอบต่อการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) พัฒนาความรับผิดชอบต่อการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับทางร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนมัธยมศึกษาเทศบาล ๓ “ยุติธรรมวิทยา” จำนวน 30 คน ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ประกอบด้วยวงจรปฏิบัติการ 3 วงจร คือ วงจรปฏิบัติการที่ 1 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1-3 วงจรปฏิบัติการที่ 2 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4-6 วงจรปฏิบัติการที่ 3 ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7-9 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) เครื่องมือที่ใช้ดำเนินการปฏิบัติการ คือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับทาง ร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 9 แผน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 18 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติการ ได้แก่ แบบบันทึกการสะท้อนผล แบบบันทึกการเรียนรู้ 3) เครื่องมือที่ใช้ประเมินผลการปฏิบัติการ ได้แก่ แบบทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหา แบบประเมินความรับผิดชอบต่อการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. กิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ โดยใช้แนวคิดห้องเรียนกลับทาง ร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาและความรับผิดชอบต่อการเรียน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเริ่มต้น (the launch phase) เกิดขึ้นภายนอกห้องเรียน เวลา 30 นาที ผู้วิจัยได้อัพโหลดคลิปวิดีโอที่มีความยาวไม่เกิน 15 นาที ใน Facebook ไลน์ และจัดทำเป็นเอกสารใบความรู้สามารถเลือกอ่านแทนการดูคลิปวีดิโอ ผู้วิจัยมีการติดตามนักเรียนให้ตอบคำถามท้ายคลิปและศึกษาด้วยตนเองที่บ้านมาล่วงหน้าหรือนอกเวลาเรียนอย่างสม่ำเสมอ2) ขั้นสำรวจ (the exploration phase) เกิดขึ้นภายนอกห้องเรียน เวลา 30 นาที ผู้วิจัยมอบหมายให้นักเรียนตั้งคำถามโดยไม่ซ้ำกับเพื่อนคนละ 1 คำถาม สร้างเกม ปริศนาคำทาย หรือกิจกรรมอื่น ๆ เกี่ยวกับเนื้อหา รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ ลงใน Facebook สำหรับถามเพื่อนหรือให้เพื่อนร่วมในกิจกรรม และเลือกตอบคำถามจากเพื่อนที่อัพบน Facebook พร้อมทั้งบันทึกความรู้ที่ศึกษาลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ในรูปแบบความเรียงหรือ Mind Map 3) ขั้นสะท้อนความคิดและการอภิปราย (Reflect and Discussion) เกิดขึ้นภายในห้องเรียน เวลา 30 นาที ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 แบ่งกลุ่มนักเรียน จำนวน 6 กลุ่ม ๆ ละ 5 คน จัดกลุ่มแบบคละความสามารถแต่ละกลุ่มประกอบด้วย คนเก่ง ปานกลาง อ่อน ในจำนวนที่เท่ากัน ให้แต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นและเขียนบันทึกความรู้ที่ศึกษาลงในแบบบันทึก พร้อมกับนำเสนอผลการศึกษาตามความสามารถและความถนัดของสมาชิกกลุ่ม เช่น การแสดงบทบาทสมมติ การเล่นเกม เป็นต้น กิจกรรมที่ 2 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างคำถามจากบทเรียนรายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามองค์ประกอบของขั้นตอนการแก้ปัญหาใน 4 ขั้น ได้แก่ ระบุปัญหา วิเคราะห์ปัญหา เสนอวิธีแก้ปัญหา และตรวจสอบผลลัพธ์ครูคัดเลือกกลุ่มที่มีผลงานดีที่สุด เขียนลงกระดาษบรุฟนำเสนอปัญหาหน้าชั้นเรียน เพื่อให้เพื่อนกลุ่มอื่นเป็นผู้ตอบและฝึกทักษะการแก้ปัญหา โดยขณะที่นักเรียนสร้างคำถามผู้วิจัยได้ดูแลและให้คำแนะนำแก่นักเรียนอย่างใกล้ชิด 4) ขั้นเข้าใจและเกิดความคิดรวบยอด (Understanding and Conceptualization) เกิดขึ้นภายในห้องเรียน เวลา 30 นาที เป็นขั้นที่ผู้เรียนเกิดความเข้าใจและนำไปสู่การเกิดความคิดรวบยอดและพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา โดยผู้วิจัยสร้างสถานการณ์ปัญหาตามองค์ประกอบ 4 ขั้น ได้แก่ ระบุปัญหา วิเคราะห์ปัญหา เสนอวิธีแก้ปัญหา และตรวจสอบผลลัพธ์ ที่เกี่ยวกับเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์และใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของนักเรียน ลงใน Google ฟอร์มส่งให้นักเรียนทางไลน์ ให้ผู้เรียนเป็นผู้ค้นหาคำตอบเพื่อฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหาด้วยเทคนิคเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งนักเรียนจะทำในช่วงเวลาใดก็ได้และสามารถส่งกลับคืนให้ผู้วิจัยได้ทางไลน์

2. หลังจากสิ้นสุดวงจรที่ 3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลทักษะการคิดแก้ปัญหา คะแนนเฉลี่ย 10.03 คิดเป็นร้อยละ 86.61 ผ่านเกณฑ์เกณฑ์ จำนวน 27 คน คิดเป็น ร้อยละ 90.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. หลังจากสิ้นสุดวงจรที่ 3 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อการเรียน คะแนนเฉลี่ย 48.47 คิดเป็นร้อยละ 73.28 ผ่านเกณฑ์เกณฑ์ จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 66.67

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับทาง ร่วมกับการเรียนรู้เชิงรุก รายวิชา ส21104 ประวัติศาสตร์ อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูกล้า : [11 ต.ค. 2565 เวลา 02:44 น.]
อ่าน [1747] ไอพี : 49.228.139.254
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,678 ครั้ง
รู้จัก โรคเอสแอลอี
รู้จัก โรคเอสแอลอี

เปิดอ่าน 16,549 ครั้ง
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา
กบฏสร้างสรรค์ทางการศึกษา

เปิดอ่าน 8,334 ครั้ง
แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ
แผนการขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติสู่การปฏิบัติ

เปิดอ่าน 20,620 ครั้ง
ประโยชน์ของ "เปลือกกล้วย" ที่คุณอาจไม่รู้
ประโยชน์ของ "เปลือกกล้วย" ที่คุณอาจไม่รู้

เปิดอ่าน 13,850 ครั้ง
เฮ ! ปรับลดค่าไฟลงอีก 1.05 สตางค์/หน่วย เริ่มพฤศจิกายนนี้
เฮ ! ปรับลดค่าไฟลงอีก 1.05 สตางค์/หน่วย เริ่มพฤศจิกายนนี้

เปิดอ่าน 18,017 ครั้ง
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์
การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

เปิดอ่าน 9,550 ครั้ง
เปิดศักราช 2559 ต้อนรับ "AEC" จุดเปลี่ยนอาเซียนสู่ก้าวใหม่ "ค้าบริการ-นวัตกรรม"มาแรง
เปิดศักราช 2559 ต้อนรับ "AEC" จุดเปลี่ยนอาเซียนสู่ก้าวใหม่ "ค้าบริการ-นวัตกรรม"มาแรง

เปิดอ่าน 8,675 ครั้ง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง

เปิดอ่าน 7,876 ครั้ง
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย
เหลียวหลัง แลหน้า ปฏิรูปการศึกษาพื้นฐานไทย

เปิดอ่าน 115,775 ครั้ง
ดาวน์โหลดหนังสือ Brain-based Learning (BBL) 7 เล่ม เขียนโดย อ.พรพิไล เลิศวิชา
ดาวน์โหลดหนังสือ Brain-based Learning (BBL) 7 เล่ม เขียนโดย อ.พรพิไล เลิศวิชา

เปิดอ่าน 8,853 ครั้ง
มากกว่า Like! เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวปุ่ม "Want" เร็ว ๆ นี้
มากกว่า Like! เฟซบุ๊กเตรียมเปิดตัวปุ่ม "Want" เร็ว ๆ นี้

เปิดอ่าน 12,137 ครั้ง
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"
คลิปล้อเลียนวิถีชีวิตของคนไทย "เมื่อก่อน VS เดี๋ยวนี้"

เปิดอ่าน 22,027 ครั้ง
ผวาทั้งเอเชีย ข้าวพลาสติกเมดอินไชน่าระบาด กินแล้วอาจถึงตาย
ผวาทั้งเอเชีย ข้าวพลาสติกเมดอินไชน่าระบาด กินแล้วอาจถึงตาย

เปิดอ่าน 20,950 ครั้ง
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง มาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ พ.ศ.2561
ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง มาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐ พ.ศ.2561

เปิดอ่าน 13,107 ครั้ง
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ
สับปะรดมีเอ็นไซม์ช่วยย่อยจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 8,522 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์
เปิดอ่าน 15,322 ครั้ง
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
"ข่า" แก้ไอเจ็บคอเสมหะผู้ใหญ่
เปิดอ่าน 18,490 ครั้ง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เปิดอ่าน 4,258 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลการปฏิบัติงานบุคลากร
เปิดอ่าน 19,440 ครั้ง
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ