รื่องที่ศึกษา รายงานการประเมินโครงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ของโรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี ปีการศึกษา 2564
ผู้รายงาน นายอาทิตย์ พัดขุนทด
ปีที่ประเมิน 2564
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ของโรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี
โดยใช้การประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) จำนวน 4 ด้าน คือ ด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ครูโรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี จำนวน7 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 46 โรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี จำนวน 30 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 6 โรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี จำนวน 70 คน รวมทั้งสิ้น 114 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ ของลิเคิร์ท ซึ่งผู้รายงานได้จัดสร้างขึ้นโดยผ่านการตรวจพิจารณาหาความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างและเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อค่าความเชื่อมั่นแบบประเมินทั้งฉบับเท่ากับ .94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงมาตรฐาน
ผลการประเมิน พบว่า
จากการศึกษาการประเมินโครงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ของโรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี ปีการศึกษา 2564 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 2 สรุปผล ได้ดังนี้
1.การประเมินโครงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ของโรงเรียนวัดแหลมไผ่ศรี ปีการศึกษา 2564 ผลการประเมินโดยรวมและรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมาก เรียงลำดับคะแนนเฉลี่ย จากมากไปน้อย คือ ด้านบริบท ด้านผลผลิต ด้านกระบวนการ และด้านปัจจัยนำเข้า
2.การประเมินด้านบริบท ผลการประเมินพบว่า มีความสอดคล้อง เหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก
คือ วัตถุประสงค์ของโครงการมีความชัดเจน วัตถุประสงค์ของโครงการสามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ และกิจกรรมและการดำเนินงานของโครงการ มีความชัดเจนและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ
3.การประเมินด้านปัจจัยนำเข้า ผลการประเมินพบว่า มีความพร้อม และเพียงพอโดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถเหมาะสมในการดำเนินโครงการ ครูและนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการ และสถานที่สำหรับใช้ปฏิบัติกิจกรรมตามโครงการมีความเหมาะสมและเพียงพอ
4.การประเมินด้านกระบวนการ ผลการประเมินพบว่า มีความเหมาะสมปฏิบัติจริงโดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ มีการวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอนและมีความชัดเจนเหมาะสม มีการกำกับติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน และมีการสรุปผลและรายงานผลการดำเนินงาน
5.การประเมินด้านผลผลิต ผลการประเมินพบว่า ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากองค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ องค์ประกอบที่ 2 ห้องเรียน รองลงมาองค์ประกอบที่ 1 อาคารเรียนและลำดับสุดท้ายองค์ประกอบที่ 3 ภูมิทัศน์บริเวณภายในโรงเรียน
5.1 การประเมินองค์ประกอบอาคารเรียน ผลการประเมินพบว่า ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ มีความมั่นคงปลอดภัย มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
5.2 การประเมินองค์ประกอบห้องเรียน ผลการประเมินพบว่า ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ มีความสะอาด และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
5.3 การประเมินองค์ประกอบภูมิทัศน์บริเวณภายในโรงเรียน ผลการประเมินพบว่า ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียนและสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ มีบริเวณทางเดินสะอาด บริเวณริมทางเดินตกแต่งด้วย ไม้ดอก ไม้ประดับ และมีถังขยะเพียงพอ