การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง เคมีกับการแก้ปัญหา ของผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน และเพื่อศึกษาความสามารถในการทำโครงงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเขาสมิงวิทยาคมฯ จำนวน 71 คน ที่เรียนวิชาเคมี 5 ว33222 เรื่อง เคมีกับการแก้ปัญหา ผู้วิจัย สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ซึ่งประกอบด้วยแผนการสอน หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง เคมีกับการแก้ปัญหา, แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เคมีกับการแก้ปัญหา จำนวน 20 ข้อ และแบบประเมินความสามารถในการทำโครงงาน

โดยผู้ศึกษาได้จัดการเรียนการสอน โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน เรื่อง เคมีกับการแก้ปัญหา โดยใช้นำไปใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเขาสมิงวิทยาคม ฯ จังหวัดตราด ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยชี้แจงนักเรียนเกี่ยวกับวิธีการเรียนการสอนให้นักเรียนทราบ ทำการทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 20 ข้อ สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยทำบันทึกข้อมูลที่ได้จากการสังเกต ข้อค้นพบที่เกิดขึ้น จากแบบประเมินความสามารถในการทำโครงงาน เมื่อสิ้นสุดการจัดการเรียนการสอน ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 20 ข้อ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ผล

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิชาเคมี 5 ว33222 เรื่อง “เคมีกับการแก้ปัญหา” ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น โดยมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 5.75 และ 13.46 ตามลำดับ จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน โดยคะแนนผลสัมฤทธิ์ดังกล่าวพบว่า ผลการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าผลการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลการประเมินความสามารถในการทำโครงงานของนักเรียน พบว่านักเรียนมีความสามารถในการทำโครงงานในระดับสูง (x̄=2.56)

เว็บน่าสนใจ