ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระ เปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระ เปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางสาวกาญชนาพร ทองเพ็ชร ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม

จังหวัดกระบี่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่วิจัย 2564

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาสภาพการปฏิบัติและความต้องการในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพ (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (4) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัด การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ประถมศึกษาปีที่ 1 แบบฝึกเสริมทักษะภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นแบบเลือกตอบ ชนิด 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์สภาพการปฏิบัติและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ความคิดเห็นของครูผู้สอน ระดับประถมศึกษาในโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ ต่อสภาพการปฏิบัติการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.23 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงลำดับด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย พบว่า มีการปฏิบัติในด้านการวัดและประเมินผล มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 รองลงมา ได้แก่ การปฏิบัติด้านการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.23 และ การปฏิบัติ ด้านการใช้สื่อ และแหล่งเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 ตามลำดับ ส่วนความคิดเห็นของครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ มีความต้องการในการจัด การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.34 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ครูผู้สอนระดับประถมศึกษา ในโรงเรียนเทศบาลคลองท่อมใต้ มีความต้องการรู้เรื่องการอ่านอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37 และมีความต้องการรู้เรื่องการเขียน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2) วัตถุประสงค์ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ (Syntax) 4) หลักการตอบสนอง (Principle of Reaction) 5) ระบบสนับสนุนการเรียนรู้ (Support System) และ 6) การวัดและประเมินผล (Evaluation) และออกแบบกระบวนการเรียนรู้ ตามรูปแบบที่ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน 1. หลักการ แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐาน 2. วัตถุประสงค์ ของการจัดการเรียนรู้ 3. ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ 3 ขั้นตอน 3.1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 3.2 ขั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 ขั้น ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างประสบการณ์ ขั้นที่ 2 ขั้นวิเคราะห์ประสบการณ์ ขั้นที่ 3 ขั้นปรับประสบการณ์นำไปสู่ความคิดรวบยอด ขั้นที่ 4 ขั้นพัฒนาความคิดด้วยข้อมูล ขั้นที่ 5 ขั้นทำตามแนวคิดที่กำหนด ขั้นที่ 6 ขั้นสร้างชิ้นงานตามความถนัด/ความสนใจ ขั้นที่ 7 ขั้นบูรณาการประสบการณ์และประยุกต์ใช้ ขั้นที่ 8 ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ของตนเองและผู้อื่น 3.3 ขั้นสรุป 4. ระบบสังคม 5. หลักการตอบสนอง และ 6. ระบบสนับสนุน

รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า มีความเหมาะสมในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.40- 4.80) และความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อแผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลประเมินโดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.57 แสดงว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำ ที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความเหมาะสมสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่อไป

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 การทดสอบวัดความสามารถในการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนเต็ม 30 คะแนน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 15.46 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.52 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 24.77 คะแนน คิดเป็น ร้อยละ 82.57 แสดงให้เห็นว่า หลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน และการเขียนคำที่ประสม ด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ เพิ่มขึ้น แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทำให้นักเรียน มีความสามารถในการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ เพิ่มขึ้น

4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้

1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดสอบวัดความสามารถในการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า คะแนนเต็ม 30 คะแนน นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 14.65 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 48.82 คะแนนเฉลี่ย หลังเรียน 24.76 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.55 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักเรียนที่ได้รับ การจัดกิจกรรมด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการอ่าน และการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนมีความสามารถในการอ่านและการเขียนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการอ่านและการเขียนคำ ที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูป สระลดรูป และสระ ใอ ไอ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ศิริ : [24 ส.ค. 2566 เวลา 22:42 น.]
อ่าน [3034] ไอพี : 223.206.216.108
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,298 ครั้ง
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์

เปิดอ่าน 15,705 ครั้ง
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..
เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้..

เปิดอ่าน 9,784 ครั้ง
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน
ความพร้อมด้านไอซีทีของประเทศไทย แค่อันดับสามของอาเซียน

เปิดอ่าน 17,262 ครั้ง
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก
ตายเยอะแม้ป้องกันได้ มะเร็งปากมดลูก

เปิดอ่าน 21,118 ครั้ง
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 16,138 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร

เปิดอ่าน 3,184 ครั้ง
เปิดทริกเพิ่ม "ไอคิว" ลูก เริ่มได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์-กินนมแม่-เล่นอิสระ
เปิดทริกเพิ่ม "ไอคิว" ลูก เริ่มได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์-กินนมแม่-เล่นอิสระ

เปิดอ่าน 12,499 ครั้ง
แก้เมื่อยด้วย กะลา
แก้เมื่อยด้วย กะลา

เปิดอ่าน 13,323 ครั้ง
แบบตรวจสอบการเรียนผ่านเครือข่าย
แบบตรวจสอบการเรียนผ่านเครือข่าย

เปิดอ่าน 14,600 ครั้ง
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์

เปิดอ่าน 33,092 ครั้ง
ชาวเน็ตชื่นชม ! พันตรีสุธี สุขสากล คัดลายมือไทยสวยงามมากๆ
ชาวเน็ตชื่นชม ! พันตรีสุธี สุขสากล คัดลายมือไทยสวยงามมากๆ

เปิดอ่าน 15,348 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก

เปิดอ่าน 23,811 ครั้ง
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"
ดาวน์โหลดสื่อวิดีทัศน์ ชุด "กายบริหารหน้าเสาธง"

เปิดอ่าน 9,108 ครั้ง
อาหารบำรุงรอบเดือน
อาหารบำรุงรอบเดือน

เปิดอ่าน 33,632 ครั้ง
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?
ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ?

เปิดอ่าน 12,810 ครั้ง
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน
เปิดอ่าน 15,661 ครั้ง
กรมการขนส่งทางบก   เตรียมนําแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่ออกให้บริการประชาชน หลังจากหมวด ฆฮ เริ่มต.ค.
กรมการขนส่งทางบก เตรียมนําแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่ออกให้บริการประชาชน หลังจากหมวด ฆฮ เริ่มต.ค.
เปิดอ่าน 17,612 ครั้ง
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
การศึกษาแบบไหนสอนให้คิดเป็น
เปิดอ่าน 14,103 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
ตูนส์ศึกษา : จิตวิญญาณครู สำคัญที่สุด
เปิดอ่าน 46,330 ครั้ง
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา
งานประติมากรรมเครื่องปั้นดินเผา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ