ครูบ้านนอก

ผู้วิจัย นางสาวณัฐญากานต์ บุญแสน

ปีที่วิจัย 2564

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความจำเป็น สภาพปัญหาในการพัฒนารูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) พัฒนารูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ศึกษาผลการประเมินรูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) รูปแบบเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณจำนวน 20 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 16 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (X) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบที (t-test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลพื้นฐาน ความจำเป็น สภาพปัญหาในการพัฒนารูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า โดยภาพรวมสภาพปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนที่ควรปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก และภาพรวมของสภาพปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนที่ครูปฏิบัติจริงอยู่ในระดับปานกลาง

2. ผลการพัฒนารูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่ามี 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการของรูปแบบฯ (Principle) 2. วัตถุประสงค์ (Objective) 3. เนื้อหา (Content) 4. กระบวนการเรียนรู้ (Methodology) มีการแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้ การจัดการเรียนรู้โดยปฏิบัติที่บ้านหรือนอกห้องเรียน (At home) 1) ขั้นตอนการจัดระบบ (organize : O) การจัดการเรียนรู้โดยปฏิบัติในห้องเรียน (In Classroom) 2) ขั้นสนับสนุน (Support : S) 3) ขั้นฝึกหัด (Train) 4) ขั้นประเมินผลลัพธ์ (Evaluate) 5. การประเมินผล (Evaluation) และรูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.40/82.21

3. ผลการใช้รูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า

3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ผลคะแนนการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมในระดับมากที่สุด (X = 4.58, S.D. = 0.50)

4. ผลการประเมินและรับรองรูปแบบรูปแบบการอ่านอย่างมีวิจารณญาณรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน โดยใช้กลวิธีอภิปัญญาร่วมกับแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด

เว็บน่าสนใจ