ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะ งานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชา การงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอน

ตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะงานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชาการงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) ออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะงานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชา การงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะงานประดิษฐ์

พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชา การงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 4) ประเมินความพึงพอใจของรูปแบบ

การสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะงานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สด

แบบสร้างสรรค์ วิชาการงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษ

ที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอน วิชาการงานอาชีพ ระดับ

ชั้นประถมศึกษา จำนวน 10 คน ของโรงเรียนในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 19 คน ซึ่งได้มา

โดยการสุ่มแบบฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย

1) ชุดฝึกทักษะงานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ จำนวน 6 ชุดฝึก 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก

จำนวน 30 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดทักษะงานประดิษฐ์พานพุ่มแบบสร้างสรรค์ เป็นแบบปรนัย

ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ

การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติแบบไม่อิสระ (t-test

แบบ Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัย พบว่า

1. การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน หลักสูตรได้มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญทุกคนสามารถเรียนรู้

และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนของครูยังใช้รูปแบบการสอน

แบบบรรยายให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดจากบทเรียน ไม่ค่อยได้ใช้สื่อ แหล่งเรียนรู้สำหรับเสริมทักษะ

การเรียนรู้ ไม่ได้ฝึกให้ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุผลเท่าที่ควร และวิธีการสอนส่วนใหญ่ของครู

จะสอนโดยยึดครูเป็นศูนย์กลาง เน้นเนื้อหาที่มีในหลักสูตรเท่านั้น เน้นการให้ได้มาซึ่งคำตอบที่ถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวิธีการคิดหาคำตอบ ทำให้นักเรียนที่เรียนไม่เข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นแล้วอาจจะไม่ต้องการ

ที่จะเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพที่เกี่ยวกับงานประดิษฐ์

2. รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น มีชื่อเรียกว่า “PANPUM Model” ประกอบด้วย

7 องค์ประกอบ คือ 1) แนวคิดพื้นฐาน 2) หลักการ 3) วัตถุประสงค์ 4) สาระความรู้และทักษะ

การสร้างงานประดิษฐ์ 5) สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ 6) จุดเน้นทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

7) กระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification: P) ขั้นที่ 2 วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูล (Analyze and Collect Information: A) ขั้นที่ 3 ออกแบบแนวคิดใหม่(Novation concept design: N) ขั้นที่ 4 วางแผนและบูรณาการนวัตกรรม (Planning and Integrate innovation: P) ขั้นที่ 5 ร่วมกันทดสอบและประเมินผล (United testing and Evaluate) ขั้นที่ 6 นำเสนอวิธีการและเผยแพร่ผลงาน (Method offer and Publish performance: M) และรูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษา

ผ่านชุดฝึกทักษะงานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชา การงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

มีความเหมาะสมและเป็นไปได้

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะ

งานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชาการงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.75/87.89 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80/80 ปรากฏว่า สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ก่อนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนตามแนวคิดสะเต็มบูรณาการศึกษาผ่านชุดฝึกทักษะ

งานประดิษฐ์พานพุ่มดอกไม้สดแบบสร้างสรรค์ วิชาการงานอาชีพ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยและสมรรถนะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังเรียนมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น และ

ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้รูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย นุช : [28 เม.ย. 2567 (10:33 น.)]
อ่าน [63826] ไอพี : 171.100.236.178
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,920 ครั้ง
มนัส บุญจำนงค์
มนัส บุญจำนงค์

เปิดอ่าน 12,610 ครั้ง
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน
แหล่งเรียนรู้ต้นแบบเพื่อการเรียนรู้นอกห้องเรียน

เปิดอ่าน 11,747 ครั้ง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!
เทคโนโลยีแห่งอนาคต ขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่!

เปิดอ่าน 55,964 ครั้ง
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
การขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 11,709 ครั้ง
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 2,431 ครั้ง
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย
4 จุดภายในบ้าน ที่ควรตรวจสอบ ป้องกันผู้สูงวัยลื่นล้ม เสี่ยงอันตราย

เปิดอ่าน 16,622 ครั้ง
เอกสารดาวน์โหลด! แนวทางการดำเนินงานการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว
เอกสารดาวน์โหลด! แนวทางการดำเนินงานการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว

เปิดอ่าน 36,126 ครั้ง
น่ารักครับ! ลูกใช้หลักอริยสัจ 4 แนะทางออกแก้ปัญหาแม่ติดโทรศัพท์
น่ารักครับ! ลูกใช้หลักอริยสัจ 4 แนะทางออกแก้ปัญหาแม่ติดโทรศัพท์

เปิดอ่าน 49,881 ครั้ง
ระบบการพัฒนาอาชีพครู
ระบบการพัฒนาอาชีพครู

เปิดอ่าน 11,066 ครั้ง
แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง
แก๊สโซฮอล์ปล่อยสารก่อมะเร็ง

เปิดอ่าน 14,169 ครั้ง
คุณรู้จักตัวเองดีพอ...หรือยัง ? ลองประเมินตัวเองดูที่นี่
คุณรู้จักตัวเองดีพอ...หรือยัง ? ลองประเมินตัวเองดูที่นี่

เปิดอ่าน 18,518 ครั้ง
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี
กระบองเพชร ช่วยดูดรังสี

เปิดอ่าน 2,231 ครั้ง
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?
ยืมเงินไม่คืน แจ้งความได้หรือไม่ ?

เปิดอ่าน 17,423 ครั้ง
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น
8 เทคนิครักษาดอกกุหลาบให้อยู่ได้นานขึ้น

เปิดอ่าน 33,508 ครั้ง
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน
เส้นเลือดขอด และเส้นเลือดฝอยที่ขาแตก มีอันตรายมากน้อยแค่ไหน

เปิดอ่าน 11,494 ครั้ง
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?
เปิดอ่าน 22,411 ครั้ง
สุดยอดสิ่งมีชีวิต ตอนที่ 1 สุดยอดจ้าวความเร็ว
สุดยอดสิ่งมีชีวิต ตอนที่ 1 สุดยอดจ้าวความเร็ว
เปิดอ่าน 20,792 ครั้ง
ดาวน์โหลดคลิป "Youtube" โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม
ดาวน์โหลดคลิป "Youtube" โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม
เปิดอ่าน 17,287 ครั้ง
เมนู "ปลาทู" ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3
เมนู "ปลาทู" ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3
เปิดอ่าน 13,601 ครั้ง
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด
คู่มือถนอมผิวสวยใต้แสงแดด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ