|
Advertisement
|
การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาสภาพการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือฉบับที่ 1 แบบวิเคราะห์เอกสารสภาพการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 และเครื่องมือฉบับที่ 2 แบบสอบถามเพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการ การส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลฉบับที่ 2 ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูผู้สอนจำนวน 127 โรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 รวม 254 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การแจกแจงความถี่ การหาค่าร้อยละ และการวิเคราะห์ข้อมูล ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือฉบับที่ 3 แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม เรื่อง ถอดบทเรียนหารูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 และเครื่องมือฉบับที่ 4 แบบประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูผู้สอนภาษาไทยที่มีผลงาน Best Practice ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 จำนวน 10 คน ระยะที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือฉบับที่ 5 แบบสอบถามติดตามการใช้รูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูผู้สอน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -3 โรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอนเขต 1 จำนวน 127 โรงเรียน โรงเรียนละ 1 คน รวม 127 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การแจกแจงความถี่ การหาค่าร้อยละ และการวิเคราะห์ข้อมูล ระยะที่ 4 การประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือฉบับที่ 6 แบบทดสอบก่อนการพัฒนาด้วยรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เครื่องมือฉบับที่ 7 แบบทดสอบก่อนการพัฒนาด้วยรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือฉบับที่ 8 แบบทดสอบก่อนการพัฒนาด้วยรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เครื่องมือฉบับที่ 9 แบบทดสอบหลังการพัฒนาด้วยรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เครื่องมือฉบับที่ 10 แบบทดสอบหลังการพัฒนาด้วยรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เครื่องมือฉบับที่ 11 แบบทดสอบหลังการพัฒนาด้วยรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และเครื่องมือฉบับที่ 12 แบบประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเครื่องมือฉบับที่ 6 11 ได้แก่ กลุ่มประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 5,210 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเครื่องมือฉบับที่ 12 ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 10 คนผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 1) สภาพปัญหาการอ่านของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอนเขต 1 พบว่า นักเรียนจำพยัญชนะ สระไม่ได้ ผสมคำไม่เป็น จำรูปคำแต่สะกดไม่ได้ ผันวรรณยุกต์ผิด ทำให้ออกเสียงไม่ถูกต้อง อ่านตัวสะกดไม่ตรงมาตรา นักเรียนชาติพันธุ์ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาที่ 2 ในภาษาของบางกลุ่มชาติพันธุ์ไม่มีตัวสะกด ทำให้นักเรียนออกเสียงไม่ชัดและไม่ตรงตัวสะกด เกิดการล้อเลียนทำให้นักเรียนไม่กล้าที่จะสื่อสารและไม่สามารถที่จะอ่านคำได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งไม่สามารถเข้าถึงสื่อเทคโนโลยี เนื่องจากสถานศึกษาอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ไม่มีไฟฟ้า ด้วยสภาพปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อการอ่านและเขียนคำไม่คล่อง และความสนใจในการอ่านค่อนข้างน้อย ในด้านครอบครัว นักเรียนชนเผ่าส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ญาติที่ไม่รู้หนังสือ เนื่องจากบิดามารดาไปทำงานต่างถิ่น หรือ หากอาศัยอยู่ร่วมกัน บิดามารดาก็ไม่สามารถที่จะสอนนักเรียนในเรื่องการอ่านได้ ส่งผลต่อความต่อเนื่องในการเรียนรู้ของนักเรียน ในด้านครู ครูที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก สอนไม่ตรงตามวิชาเอก มีครูย้ายบ่อยทำให้การเรียนการสอนไม่ต่อเนื่อง 2) สภาพปัจจุบัน การพัฒนาการอ่านของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอนเขต 1 พบว่า มีการดำเนินการพัฒนาการอ่านอย่างหลากหลายรวมถึงการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) 3) ความต้องการในการพัฒนาการอ่านของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอนเขต 1 พบว่า สถานศึกษาต้องการพัฒนาผู้เรียนในด้านการอ่าน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ระดับปฐมวัย ให้ผู้เรียนได้รู้จักพยัญชนะ สระ ซึ่งเป็นพื้นฐานการอ่านในระดับประถมศึกษา ผ่านกิจกรรมเสริมประสบการณ์ เมื่อพิจารณาตามระดับชั้นพบว่า การพัฒนาการอ่านที่เหมาะสมกับผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 คือ ครูควรจัดทำแผนพัฒนาการอ่าน สร้างนวัตกรรม ทำสื่อการสอนและนำแบบฝึกหัดมาใช้ในการพัฒนาการอ่านให้เหมาะสมกับผู้เรียนที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่หลากหลาย
2. ผลการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 พบว่า กิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้แบบฝึก กิจกรรมส่งเสริมการอ่านคำพื้นฐาน กิจกรรมส่งเสริมการอ่านห้องสมุดเคลื่อนที่ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน พี่สอนน้อง กิจกรรมผู้ปกครองส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมเล่านิทานส่งเสริมการอ่าน และกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้สื่อ CAI เป็นรูปแบบการส่งเสริมการอ่าน ที่เหมาะสมกับนักเรียน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 ในภาพรวม พบว่า อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย 4.47 เมื่อพิจารณาผลการดำเนินกิจกรรมของแต่ละรูปแบบ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย พบว่า ลำดับแรกสุด คือ รูปแบบกิจกรรมส่งเสริม การอ่านโดยใช้แบบฝึก อยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.88 รองลงมา คือ รูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้คำพื้นฐาน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 รูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้กิจกรรมการเล่านิทานอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 รูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้กิจกรรมพี่สอนน้อง อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.49 รูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้ห้องสมุดเคลื่อนที่ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 รูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยใช้สื่อ CAI อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 และรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยผู้ปกครอง อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.10 ตามลำดับ
4. ผลการประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 พบว่า ผลการประเมินประสิทธิภาพการใช้รูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 คะแนนก่อนนำรูปแบบไปใช้ ร้อยละ 40.10 คะแนนหลังการนำรูปแบบไปใช้ ร้อยละ 83.05 มีผลการประเมินสูงกว่าก่อนการนำรูปแบบไปใช้ร้อยละ 42.95 ผลการสนทนาการประเมินประสิทธิภาพรูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 พบว่ารูปแบบการส่งเสริมการอ่านของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 1 มีประสิทธิภาพต่อการพัฒนาการอ่านแก่ผู้เรียนที่เหมาะสมกับบริบทเชิงพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้ง 7 กิจกรรม
|
โพสต์โดย เสก : [25 ก.ย. 2567 (16:33 น.)] อ่าน [59344] ไอพี : 223.24.154.101
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,727 ครั้ง ![[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง" [คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"](news_pic/p22734150632.jpg)
| เปิดอ่าน 10,995 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,559 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,108 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 57,923 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,861 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 193,963 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,627 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,917 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,997 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,609 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,016 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 29,208 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,187 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,221 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 78,736 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,646 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,248 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,509 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,174 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|