ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ชื่อผลงาน : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้

ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่าน

จับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย : นายนิกรณ์ กองทุ่งมน ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนประทาย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ปีการศึกษา : 2566

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหาและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนประทาย สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) แผนการจัดการเรียนรู้ ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่าที (t-test) (Dependent sample)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ข้อมูลสภาพปัจจุบันและความต้องการในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย สภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนขาดความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญจากการอ่านและการแก้ปัญหา ไม่มีความมุ่งมั่นในการเรียน ขาดความร่วมมือในกิจกรรมการเรียนรู้ ขาดการปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกในชั้นเรียน ความต้องการในการจัดการเรียนรู้ มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา เน้นอ่าน คิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหาของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถสร้างความรู้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญจากการเรียนรู้ร่วมกัน เพิ่มมากขึ้น

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระหลัก สิ่งสนับสนุน และการนำไปใช้ โดยมีขั้นตอนการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1. เตรียมเรื่องเตรียมอ่าน (Prepare a story to read) 2. ทบทวนความรู้เดิมเพิ่มเติมความรู้ใหม่ (Activate Prior Knowledge) 3. เชื่อมโยงความรู้ (connect knowledge) 4. สร้างชิ้นงานแผนภาพความคิด (Create a mind map) 5. สรุปความคิดพิชิตปัญหา (Summarizes the idea of conquering the problem) 6. นำเสนอและประเมินผล (Evaluate) ซึ่งรูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.62/84.75

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเองร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านจับใจความสำคัญและการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย mahaa : [29 ก.ย. 2567 (15:03 น.)]
อ่าน [97952] ไอพี : 223.205.223.202
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 143,016 ครั้ง
"ความแตกต่างระหว่าง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กับ โรงเรียนอนุบาล" โดย ดร.สุวรรณ พิณตานนท์
"ความแตกต่างระหว่าง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กับ โรงเรียนอนุบาล" โดย ดร.สุวรรณ พิณตานนท์

เปิดอ่าน 11,054 ครั้ง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง
ขีปนาวุธเร็วกว่าเสียง

เปิดอ่าน 43,966 ครั้ง
ปีอธิกสุรทิน
ปีอธิกสุรทิน

เปิดอ่าน 32,234 ครั้ง
กินให้ผอมใน 14 วัน! ลองทำดูสิ
กินให้ผอมใน 14 วัน! ลองทำดูสิ

เปิดอ่าน 12,457 ครั้ง
เคล็ดลับเรียนภาษา ให้ได้ผล
เคล็ดลับเรียนภาษา ให้ได้ผล

เปิดอ่าน 38,106 ครั้ง
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.

เปิดอ่าน 73,472 ครั้ง
สมการและอสมการ
สมการและอสมการ

เปิดอ่าน 12,042 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์
ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

เปิดอ่าน 23,838 ครั้ง
พระสยามเทวาธิราช
พระสยามเทวาธิราช

เปิดอ่าน 10,802 ครั้ง
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน

เปิดอ่าน 16,771 ครั้ง
ติดกาแฟทั้งที อย่างนี้ต้องดื่มให้ฉลาด
ติดกาแฟทั้งที อย่างนี้ต้องดื่มให้ฉลาด

เปิดอ่าน 50,181 ครั้ง
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?
อาเซียน +3 และ อาเซียน +6 คืออะไร ?

เปิดอ่าน 10,388 ครั้ง
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่
องค์กรของคุณใช้เครื่องมืออัตโนมัติด้านไอทีที่เหมาะสมหรือไม่

เปิดอ่าน 12,313 ครั้ง
โรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์

เปิดอ่าน 11,685 ครั้ง
5 ซุปเปอร์ฟู้ดส์...ที่สาวๆ ขาดไม่ได้
5 ซุปเปอร์ฟู้ดส์...ที่สาวๆ ขาดไม่ได้

เปิดอ่าน 19,470 ครั้ง
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
เปิดอ่าน 15,039 ครั้ง
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559
ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยกองทุนสานพลังประชารัฐ:โรงเรียนประชารัฐ พ.ศ.2559
เปิดอ่าน 9,327 ครั้ง
ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา ของกล้วยเล็บมือนาง
ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดา ของกล้วยเล็บมือนาง
เปิดอ่าน 22,123 ครั้ง
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี
คลิปการ์ตูน ก-ฮ แบบเอาฮา พล็อตเรื่องดี
เปิดอ่าน 22,708 ครั้ง
วิธีดูแลเล็บให้สวยงามแข็งแรง
วิธีดูแลเล็บให้สวยงามแข็งแรง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ