ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การใช้ชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในการเรียนเรื่อง ประเภทของเครื่องดนตรีไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดกลางคลองสาม

ชื่อผู้วิจัย นายสันติสุข ไม้แก้ว

ปีการศึกษา 2567

บทคัดย่อ

จากการประเมินการเรียนเรื่องประเภทของเครื่องดนตรีไทย ในแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และประเมินผล กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระที่ 2 ดนตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 เมื่อสอนจบหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ประเภทของวงดนตรีไทย ผลการประเมิน พบว่า นักเรียนจำนวน 8 คน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินเรื่องประเภทของเครื่องดนตรีไทย ลักษณะของวงดนตรีแต่ละประเภทได้อีกทั้งสับสนการแยกประเภทของวงดนตรี ซึ่งจะส่งผลต่อเกณฑ์การวัดผลประเมินผลของสถานศึกษา ครูผู้สอนต้องดำเนินการแก้ไข พัฒนานักเรียนให้ผ่านเกณฑ์ นักเรียนต้องมีสมาธิ และความพยายามในการเรียน การฝึกฝนพอสมควร จึงจะทำให้การเรียนนั้นเกิดประสิทธิผลได้

จากความสำคัญดังกล่าว ผู้สอนจึงได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว จัดทำวิจัยในชั้นเรียนขึ้นโดยนำชุดฝึกทักษะเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในการเรียนเรื่องวงดนตรี มาใช้กับนักเรียนกลุ่มนี้เพื่อผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น

ในการวิจัยในชั้นเรียน ผู้วิจัยใช้ชุดฝึกทักษะเรื่องวงดนตรี เป็นเครื่องมือในการวิจัย ประกอบด้วย

- แบบฝึกชุดที่ 1 ประเภทของเครื่องดนตรีไทย

- แบบฝึกชุดที่ 2 ประวัติความเป็นมาของเครื่องดนตรีไทย

ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียน ระหว่างเวลา 16.00 - 16.30 น. และ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้เวลา 10 วัน

ผลการประเมินพัฒนาการสรุปได้ทั้ง 4 ครั้ง ดังนี้ นักเรียนมีคะแนนผลการฝึกทักษะความรู้ ความเข้าใจการแยกประเภทของเครื่องดนตรีไทย ผ่านเกณฑ์ มีผลคะแนนเฉลี่ยสูงสุดคือ 96.2 และมีผลคะแนนเฉลี่ยต่ำสุดคือ 8 นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีคะแนนพัฒนาการโดยรวมร้อยละเฉลี่ย 91.2 โดยมีคะแนนพัฒนาการสูงสุดคิดเป็นร้อยละ 100 และมีคะแนนพัฒนาการต่ำสุดคิดเป็นร้อยละ 80 โดยผ่ายเกณฑ์การประเมินทุกคนคิดเป็นร้อยละ 100 นอกจากนี้จากการทำวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยยังสามารถสรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จะประกอบไปด้วยปัจจัย 3 ด้านที่ทำให้นักเรียนไม่เกิดการเรียนรู้ที่ดี ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน 2. ปัจจัยด้านจำนวนผู้เรียน 3. ปัจจัยด้านระยะเวลาในการเรียน จะเห็นได้ว่านักเรียนทั้ง 8 คน จะสามารถเรียนรู้ได้ดีเมื่อทำการเรียนการสอนในกลุ่มย่อยหรือแยกสอนเฉพาะกลุ่ม และมีสภาพห้องเรียนที่สงบเงียบ ไม่วุ่นวาย และใช้ระยะเวลาในการเรียนไม่เกิน 30 - 50 นาที นักเรียนจึงจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเรียนแบบกลุ่มใหญ่

โพสต์โดย SUNTISUK : [22 พ.ย. 2567 (16:27 น.)]
อ่าน [59249] ไอพี : 113.53.159.187
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,624 ครั้ง
โชว์ภาพ 3 มิติ แก๊ดเจ็ตใหม่ บัตรประชาชนอนาคต
โชว์ภาพ 3 มิติ แก๊ดเจ็ตใหม่ บัตรประชาชนอนาคต

เปิดอ่าน 37,550 ครั้ง
รู้จัก "อีบิดดิ้ง-อีมาร์เก็ต" ระบบจัดซื้อ "พันธุ์ใหม่"
รู้จัก "อีบิดดิ้ง-อีมาร์เก็ต" ระบบจัดซื้อ "พันธุ์ใหม่"

เปิดอ่าน 41,532 ครั้ง
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้

เปิดอ่าน 35,238 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 27,473 ครั้ง
ปิรามิดเพิ่มพลังความรู้
ปิรามิดเพิ่มพลังความรู้

เปิดอ่าน 17,878 ครั้ง
วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม
วอยเอเจอร์ 2 เผยระบบสุริยะไม่กลม

เปิดอ่าน 34,457 ครั้ง
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด

เปิดอ่าน 12,968 ครั้ง
วิธีลบรอยดำ อำพรางผิว
วิธีลบรอยดำ อำพรางผิว

เปิดอ่าน 33,341 ครั้ง
วิธีแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ
วิธีแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นอับ

เปิดอ่าน 112,598 ครั้ง
บทสวดอโหสิกรรม
บทสวดอโหสิกรรม

เปิดอ่าน 69,845 ครั้ง
เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่(ขณะนี้ ก.ค.ศ.ให้ชะลอไปก่อน)
เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่(ขณะนี้ ก.ค.ศ.ให้ชะลอไปก่อน)

เปิดอ่าน 16,089 ครั้ง
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ
10 โรคเรื้อรังของคนวัย 40 อัพ

เปิดอ่าน 15,993 ครั้ง
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?

เปิดอ่าน 45,599 ครั้ง
เทคนิคการปลูกไม้ผลในภาชนะ ที่ได้ผลดีกว่าปลูกลงดิน
เทคนิคการปลูกไม้ผลในภาชนะ ที่ได้ผลดีกว่าปลูกลงดิน

เปิดอ่าน 13,332 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้

เปิดอ่าน 35,404 ครั้ง
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ
เปิดอ่าน 14,574 ครั้ง
เย็นกายเย็นใจเมื่อตั้งครรภ์
เย็นกายเย็นใจเมื่อตั้งครรภ์
เปิดอ่าน 16,022 ครั้ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
เปิดอ่าน 19,852 ครั้ง
ประวัติจังหวัดนครพนม
ประวัติจังหวัดนครพนม
เปิดอ่าน 12,789 ครั้ง
กล้ามเนื้อน้อยจะอ้วนง่าย... จริงหรือ ?
กล้ามเนื้อน้อยจะอ้วนง่าย... จริงหรือ ?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ