ชื่องานวิจัย การพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โปรแกรม scratch
ชื่อผู้วิจัย นายวรเศรษฐ์ ธนะคูณเศรษฐ์
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)
บทคัดย่อ
จากประสบการณ์ในการเป็นครูผู้จัดการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้น ประถมศึกษาศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 พบว่า นักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 5 นั้นยังขาดทักษะการคิดเชิงคำนวณ ดังนั้นผู้วิจัยจึงคิดที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษามาเป็นส่วนช่วยให้เกิดวิธีการเรียนการสอนใหม่ โดยดำเนินการทำวิจัยการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โปรแกรม scratch 1) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ วิชาเทคโนโลยี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดประสิทธิเวช 2) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาการคำนวณของนักเรียนให้สูงขึ้น
การดำเนินการจัดการเรียนโดยใช้โปรแกรม scratch ทำให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้เพิ่มขึ้น นักเรียนที่ฝึกปฏิบัติทักษะโปรแกรม scratch ได้รับการฝึกให้แก้ปัญหาและการออกแบบการแก้ปัญหา ด้วยอัลกอริทึม โดยโปรแกรม scratch เข้ามาช่วยในการคิดด้านการแก้ปัญหา จากการเปรียบเทียบผลการบันทึกคะแนน จากเกณฑ์ที่วัดและหาค่าเฉลี่ยของความก้าวหน้าในพัฒนาการของฝึกทักษะในการใช้โปรแกรม scratch จะเห็นได้ว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนฝึกของนักเรียนเท่ากับ 7 คะแนนเฉลี่ยหลังฝึกเท่ากับ 16.52 คะแนน ดังนั้น นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย = 16.52 - 7 = 9.52 จากจำนวนของนักเรียนทั้งหมดจำนวน 17 คน โดยคิดเป็นร้อยละ 100 ของนักเรียนที่ เข้ารับการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณโดยมีการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณที่เพิ่มขึ้น
งานวิจัยในชั้นเรียน
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โปรแกรม scratch
ชื่อผู้วิจัย นายวรเศรษฐ์ ธนะคูณเศรษฐ์
รายวิชา วิทยาการคำนวณ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) ให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การคิดเชิงคำนวณไม่เพียงแต่เป็นทักษะพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้นักเรียนสามารถแก้ปัญหาเชิงระบบ คิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มุ่งเน้นการศึกษาการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนระดับประถมศึกษาปี่ที่ 5 โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อออกแบบและพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณผ่านการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน และบูรณาการกับสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ในระดับประถมศึกษาโดยการศึกษาครั้งนี้คาดว่าจะได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณที่เหมาะสมกับบริบทของนักเรียนระดับประถมศึกษา ตลอดจนได้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชั้นเรียนได้จริง อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา และเตรียมความพร้อมให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ต่อไป
ดังนั้น ผู้วิจัยจึงได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษามาเป็นเครื่องมือ เพื่อที่จะได้มีรูปแบบวิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ โดย การทำวิจัยการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้โปรแกรม scratch
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1) เพื่อพัฒนาทักษะการคิดคำนวณ รายวิชาวิทยาการคำนวณของนักเรียนชั้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนวัดประสิทธิเวช
2) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาการคำนวณของนักเรียนให้สูงขึ้น สมมติฐานการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาการคำนวณของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนโดยโปรแกรม scratch พัฒนาการเรียนรู้สูงกว่าก่อนเรียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาการคำนวณที่สูงขึ้น และมีแนวทางในการเรียนที่ดีเพื่อนำมาปรับใช้กับการเรียนได้หลากหลายวิชา
ขอบเขตการวิจัย กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดประสิทธิเวช จำนวน 17 คน
ระยะเวลาการวิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 วันที่ 1 พฤษจิกายน 2567 - 14 มีนาคม 2568
วิธีดำเนินการวิจัย
ตัวแปรที่ศึกษา
- ตัวแปรต้น ได้แก่ กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โปรแกรม scratch
- ตัวแปรตาม ได้แก่ ทักษะการคิดเชิงคำนวณที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาการคำนวณที่มี
พัฒนาการที่ดีขึ้น
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยจำแนกตามลักษณะการใช้ดังนี้
1. โปรแกรม scratch
2. แบบวัดทักษะการคิดเชิงคำนวณก่อนเรียนและหลังเรียน
ขั้นตอนดำเนินการวิจัย
1. จัดเตรียมเอกสารต่างๆ ในการทำวิจัย
2. ใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ
3. ตรวจสอบความก้าวหน้าของนักเรียนจากแบบทดสอบ
4. รวบรวมและสรุปผลการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยจัดทำบทเรียนโดยใช้โปรแกรม scratch มาดำเนินการพัฒนาการเรียนรู้ทดลองกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 17 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ก่อนที่ผู้วิจัยจะดำเนินการจัดทำแบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้ไปใช้นั้น ได้ชี้แจงให้นักเรียนทราบถึงขั้นตอนต่างๆให้นักเรียนเข้าใจตรงกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและข้อบกพร่องโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ชี้แจงวัตถุประสงค์วิธีใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการเรียนรู้แก่นักเรียนให้เข้าใจขั้นตอนต่างๆ
2. ขั้นประกอบกิจกรรม โดยให้นักเรียนมีบทบาทในการปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงจุดประสงค์ที่ได้วางไว้
3. ขั้นสรุป เป็นการสรุปความเข้าใจของนักเรียนในเรื่องนั้น
4. ขั้นทำแบบฝึกหัดท้ายบท
5. ทำแบบทดสอบท้ายบท
การวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้ในการวิจัย
นำข้อมูลที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียนนำมาสร้างตารางเปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนของนักเรียนรายบุคคลมาพิจรณาเพื่อดูพัฒนาการของนักเรียนและค้นหาจุดบกพร่อง ตลอดจนหาผลต่างและหาค่าร้อยละของความก้าวหน้า สรุปและอภิปรายผล จากการศึกษาและวิเคราะห์การประเมินความคิดเห็นในการทำแบบทดสอบส่งเสริมทักษะสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แสดงให้เห็นว่า โดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยระดับคะแนนเฉลี่ยก่อนการวิจัย (𝑥̅ ) ได้ 7.41 คะแนน และหลังจากการใช้แบบฝึกทักษะมาช่วยในการสอนทำให้ระดับคะแนนเฉลี่ยหลังการวิจัย (𝑥̅ ) ได้ 14.23 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 6.88 คะแนน พบว่า บทเรียนที่ได้นำมาจัดการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้ทำขึ้นนี้สามารถช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชา วิทยาการคำนวณ
ข้อเสนอแนะ
1. ในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้บทเรียนอาจจะหา เรื่องอื่นๆ มาเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนักเรียนให้ได้ผลดีที่สุด
2. ในการวิจัยครั้งต่อไปอาจนำไปปรับใช้กับชั้นอื่นๆ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนต่อไปการเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียนในบทเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5