ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ระดับปฐมวัย ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์

รายงานแบบปฏิบัติที่ดี (Best Practices)

กิจกรรม PLK3 Awards ปีการศึกษา 2567

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาพิษณุโลก เขต 3

ชื่อผลงาน ก

ชื่อผู้เสนอผลงาน นางสาวจุฑาทิพญาณี บุญจิตร

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวิทยสัมพันธ์

ประเภทผลงาน / นวัตกรรม

( ) การบริหารการจัดการศึกษา ด้าน -

(✓ ) การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดการศึกษาปฐมวัย ระดับชั้นอนุบาล 3

1.สภาพปัจจุบัน/ปัญหา

เด็กปฐมวัยอยู่ในช่วงวัยที่สำคัญของการพัฒนารากฐานทางอารมณ์ สังคม และสติปัญญา ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นคุณลักษณะที่ช่วยให้เด็กกล้าแสดงออก มีทักษะการตัดสินใจ และพร้อมเผชิญความท้าทาย

ในอนาคต เป้าหมายนี้สอดคล้องกับ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 ซึ่งเน้นการส่งเสริมคุณลักษณะ

ที่พึงประสงค์ เช่น ความมั่นใจและการรับผิดชอบตนเอง ผ่านการจัดประสบการณ์เรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เช่น การวาดภาพ งานประดิษฐ์ หรือการแสดงออกทางศิลปะ เป็นวิธีการที่ช่วยให้เด็กได้ฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ช่วยพัฒนาความฉลาดด้านอารมณ์และมิติสัมพันธ์ ตาม ทฤษฎีพหุปัญญาของ Howard Gardner

เด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี เป็นวัยที่ร่างกายและสมองของเด็กปฐมวัยกำลังเจริญเติบโตเด็กปฐมวัยต้องการความรัก ความเอาใจใส่ ดูแลอย่างใกล้ชิด เด็กปฐมวัยวัยนี้มีโอกาสเรียนรู้จากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้สำรวจ เล่น ทดลอง ค้นพบด้วยตนเอง ได้มีโอกาสคิด แก้ปัญหา เลือกตัดสินใจ ใช้ภาษาสื่อความหมาย คิดริเริ่มสร้างสรรค์ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ, 2560: 1)

กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นการจัดกิจกรรมที่มุ่งให้เด็กปฐมวัยได้รับพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา อย่างเหมาะสมตามวัย ซึ่งได้มีผู้กล่าวถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ดังนี้

วิรุณ ตั้งเจริญ (2562, หน้า 691-702) ได้กล่าวถึงคุณค่าของศิลปะว่า นอกจากจะช่วยให้เด็กปฐมวัยลดความคับข้องใจแล้ว ยังช่วยให้เกิดความพึงพอใจ มีอารมณ์แจ่มใส มั่นคงและเกิดความมั่นใจในการแสดงออก ส่งผลให้เรียนรู้การทำงานและปรับตัวในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ เป็นการช่วยให้เกิดการพัฒนาด้านอารมณ์อย่างได้ผลและตระหนักถึงคุณค่าของตนที่มีต่อหมู่คณะส่งผลให้เด็กปฐมวัยมีทัศนคติที่ถูกต้องในสังคมและมีบุคลิกภาพเป็นไปในทางดีงาม และพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาทางบวกดังนี้

1. พัฒนาการทางร่างกาย ขณะทำงานเด็กปฐมวัยต้องเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลาจะช่วยให้ได้บริหารร่างกายทำให้เติบโต ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่จะพัฒนาพฤติกรรมเด็กปฐมวัยได้จึงต้องเป็นประสบการณ์ที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของเด็กปฐมวัยกิจกรรมทางศิลปะจะช่วยสนองความต้องการทางด้านนี้ ช่วยให้เด็กปฐมวัยได้เคลื่อนไหวร่างกายมือ แขนขา เป็นกิจกรรมที่ได้เคลื่อนไหวไปมาอย่างอิสระ เป็นผลทั้งการตอบสนองความต้องการและพัฒนาการทางร่างกายไปพร้อมกัน ด้วยเหตุผลนี้เราจะพบว่าเด็กปฐมวัยจะตื่นเต้นมากเมื่อได้ขีดเขียนหรือได้ทำงานศิลปะ เพราะเขาได้สนุกสนานและได้เคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อมกัน

2. พัฒนาการทางอารมณ์ การแสดงออกทางศิลปะ เป็นพฤติกรรมที่เสรีช่วยให้เกิดความพึงพอใจ อารมณ์แจ่มใสเบิกบาน พร้อมกันนั้นก็จะช่วยให้เด็กปฐมวัยมีอารมณ์ที่มั่นคง เกิดความมั่นใจในการแสดงออก มั่นใจในตนเอง ซึ่งความมั่นใจและพึงพอใจทางอารมณ์นี้จะมีผลไปสู่การเรียนรู้ การทำงาน และการปรับตัวในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างดี โดยปกติเด็กปฐมวัยทุกคนจะมีปัญหาทางอารมณ์ในอันที่จะปรับตัวให้เข้ากับประสบการณ์และเหตุการณ์ใหม่ ๆ รอบตัว เพราะวัยเด็กปฐมวัยเป็นวัยที่ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา ศิลปะที่มีผลเกี่ยวโยงกับอารมณ์ จึงเป็นประสบการณ์ตรงที่มีคุณค่าต่อการปรับตัวและพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กปฐมวัย

3. พัฒนาการทางสังคม เด็กปฐมวัยมีสังคมของเด็กปฐมวัยที่จะต้องอยู่ร่วมกันกับเด็กปฐมวัยด้วยกันหรือบุคคลอื่น ในการอยู่ร่วมคณะ เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากหมู่คณะและเป็นผู้ที่มีความสามารถที่จะช่วยเหลือร่วมกับหมู่คณะได้ กิจกรรมศิลปะมีสภาพเป็นทั้งตัวเชื่อมโยงสังคมของเด็กปฐมวัย และพัฒนาการอยู่ในสังคมอีกด้านหนึ่งด้วย

4. พัฒนาการทางสติปัญญา ประสบการณ์ทางศิลปะของเด็กปฐมวัยวัยนี้จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และช่วยส่งเสริมสติปัญญาของเด็กปฐมวัยให้ดีขึ้น เพราะประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ศิลปะ เด็กปฐมวัยจะต้องคิดสำรวจตรวจสอบ สร้างสรรค์ให้สัมพันธ์กับวัสดุเป็นการช่วยให้เด็กปฐมวัยได้เรียนด้วยการกระทำจริงและมีประสบการณ์ตรง ศิลปะจะช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กว้างขวาง ช่วยให้เด็กปฐมวัยได้ทดลองค้นคว้า พฤติกรรมเหล่านี้ย่อมพัฒนาให้เกิดประสาทฉับไวในการรับรู้ มั่นใจในความคิด และกล้าแสดงออก ซึ่งนั้นเป็นวิถีทางทีมี่ผลต่อการพัฒนาทางสติปัญญานั่นเอง

งานวิจัยล่าสุดในปี 2567 กล่าวถึงประสิทธิผลของศิลปะในการพัฒนาความมั่นใจและจินตนาการ ผลการวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กระดับปฐมวัยชั้นอนุบาล 3 ผู้ปกครอง และสถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับการศึกษาปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของเด็กอย่างแท้จริง

จากงานวิจัยในปี พ.ศ. 2567 ได้ยืนยันถึงประสิทธิผลของศิลปะในการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตัวอย่างเช่น งานวิจัยของยุพิน พลหนา (2567,หน้า 45-47) ซึ่งศึกษาการใช้ศิลปะสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมจินตนาการและแรงบันดาลใจในเด็กปฐมวัย พบว่ากิจกรรมศิลปะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และความมั่นใจในการแสดงออก โดยเฉพาะเมื่อมีการประเมินผลงานจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ปกครอง นอกจากนี้

งานวิจัยจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (2567,หน้า 89-91) รายงานผลการติดตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ระบุว่าการจัดกิจกรรมศิลปะที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางช่วยพัฒนาคุณลักษณะด้านอารมณ์และจิตใจอย่างมีนัยสำคัญ ผลการวิจัยเหล่านี้สนับสนุนว่า กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง และการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมประสิทธิผลของกิจกรรมศิลปะ มีความสอดคล้อง ในทฤษฎีระบบนิเวศของ Bronfenbrenner ซึ่งระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและครอบครัวเป็นรากฐานของพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม. การสนับสนุนจากผู้ปกครอง เช่น การร่วมทำกิจกรรมหรือให้กำลังใจ ช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและกล้าแสดงออกมากขึ้น

งานวิจัยของขนิษฐา บุนนาค (2567,หน้า 103 -105) ชี้ว่า การจัดกิจกรรมศิลปะที่มีผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและครอบครัวอย่างชัดเจน

ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ ได้ดำเนินการแบบปฏิบัติที่ดี (Best Practices) เรื่อง “การพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง” เนื่องจากจากการสังเกตพบว่าเด็กบางส่วนยังขาดความมั่นใจในการแสดงออก เช่น การนำเสนอผลงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการด้านสังคมและการเรียนรู้ในระยะยาวการดำเนินการนี้มีสอดคล้องกับข้อเสนอแนะจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) รอบที่ 5 ที่เน้นให้สถานศึกษาดำเนินโครงการพัฒนาต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี พร้อมมีการประเมินผลและปรับปรุงทุกปี สามารถสามารถรองรับการประเมินภาย และภายนอก ในครั้งต่อไป และส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและตอบสนองต่อความต้องการของเด็กอย่างแท้จริง

ในปีการศึกษา 2566 ข้าพเจ้าได้จัดทำ (Best Practices) เรื่อง “การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง” ซึ่งได้รับรางวัลระดับดีจากกิจกรรม PLK3 Awards ประจำปี 2566 และในปีการศึกษา 2567 ได้พัฒนาต่อยอดโดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองมากขึ้น ผ่านการวางแผนและทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ร่วมกันกับขณะที่อยู่บ้านการดำเนินการในปีนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัยอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นให้เด็กมีอิสระในการคิดและลงมือทำ กล้าแสดงออก และได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองในทุกขั้นตอนของการเรียนรู้

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ระดับปฐมวัย ก่อนทำกิจกรรมและหลังทำกิจกรรม

2 เพื่อให้เด็กปฐมวัยเกิดความเชื่อมั่นในตนเองโดยจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และนำทักษะที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน

3.เพื่อหาแนวทางการจัดกิจกรรมที่เป็นรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัย

เป้าหมาย

เชิงปริมาณ : เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ ร้อยละ 85 มีความเชื่อมั่น ในตนเองสูงขึ้นหลังได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์

เชิงคุณภาพ : เด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ ปีการศึกษา 2567 เกิดความเชื่อมั่นในตนเองสูง และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

2.ขั้นตอนการดำเนินงาน

2.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน การออกแบบนวัตกรรม

2.1.1 ศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหาจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ศึกษารูปแบบวิธีการดำเนินงานในการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัยในปีการศึกษา 2565 และปีการศึกษา 2566 เพื่อหาจุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนานำมาต่อยอดและปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานในปีการศึกษา 2567 และแนวทางการปฏิบัติจาก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) การประเมิน สมศ. รอบที่ 5

2.1.2 ศึกษาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2560 วิเคราะห์มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและตัวบ่งชี้

2.1.3 ศึกษา แนวคิด เกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย

2.1.4 ศึกษา แนวคิด เกี่ยวกับวิธีการและขั้นตอนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยนำแนวทางมา

ปรับให้เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่นที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและดำเนินการจัดประสบการณ์ผ่านการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยแผนการจัดประสบการณ์ของระดับปฐมวัยเป็นการเรียนรู้ในรูปแบบของ Active Learning

2.1.5 ดำเนินการสร้างแผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับแผนการจัดประสบการณ์ ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่

1. ด้านความคิดริเริ่ม

2. ด้านความคิดคล่องตัว

3. ด้านความคิดยืดหยุ่น

4. ด้านความคิดละเอียดลออ

2.1.6 ดำเนินการออกแบบเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและพร้อมจัดทำออกแบบเครื่องมือในการประเมินการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง และมีขั้นตอนในการสร้างแบบประเมินการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อเพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัยเป็นรายบุคคล มีการดำเนินการโดยศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัย และความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัย

2.1.7 ดำเนินการออกแบบสร้างแบบประเมินการจัดกิจกรรมเรื่อง การพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง

2.1.8 นำนวัตกรรมไปดำเนินการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ตามแผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง

1. ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นในการสร้างแบบประเมินการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองของเด็กปฐมวัยโดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง

2. สร้างแบบประเมินการจัดกิจกรรมการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ระดับปฐมวัย ที่ข้าพเจ้าสร้างขึ้น

3. นำแบบประเมินการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชั้นอนุบาล 3 จำนวน 27 คน

2.1 ดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงาน ในรูปแบบ วงจรเดมมิ่ง PDCA (Deming Cycle)

โครงสร้าง PDCA ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน

P = Plan คือ การวางแผน

D = DO คือ การปฏิบัติตามแผน

C = Check คือ การตรวจสอบ

A = Act คือ การปรับปรุงการดำเนินการ

ขั้นที่ 1 วางแผนก่อนการดำเนินการ (Plan)

ขั้นที่ 1 การวางแผน

1. กำหนดเป้าหมาย การพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ในระดับชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์

2. วางแผนการจัดประสบการณ์ การพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง หลังจากได้ผ่านการศึกษาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องจึงได้วางแผนการจัดประสบการณ์โดยกำหนดจุดประสงค์และรูปแบบของกิจกรรมในแต่ละสัปดาห์โดยบูรณาการในกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมได้อย่างเหมาะสม

3. ออกแบบกิจกรรมเพื่อการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง พร้อมทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยสามารถหาจากภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียนได้ตามบริบทของโรงเรียนโดยทุกคนมีส่วนร่วมในการเตรียมวัสดุอุปกรณ์

กำหนดการสอนกิจกรรมเพื่อการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดย การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2567

สัปดาห์ที่

วัน

กิจกรรม

วันที่

1 จันทร์ การปั้นตามจินตนาการ 7 พฤศจิกายน 2567

พุธ ตัวฉันในสวนมหัศจรรย์ 9 พฤศจิกายน 2567

2 จันทร์ การต่อเติมภาพตามรูปทรง 11 พฤศจิกายน 2567

พุธ สร้างบ้านใต้ทะเล 15 พฤศจิกายน 2567

3 จันทร์ นกยูงรำแพน 20 พฤศจิกายน 2567

พุธ การสร้างสรรค์ประกอบชิ้นงาน 22 พฤศจิกายน 2567

4 จันทร์ การสร้างสรรค์ผลงานประกอบชิ้นงาน

16 พฤศจิกายน 2567

พุธ การสร้างสรรค์ผลงานประกอบชิ้นงาน

29 พฤศจิกายน 2567

ขั้นที่ 2 ดำเนินการปฏิบัติตามแผน (Do)

ก่อนการทดลอง นำแบบประเมินการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 27 คน แล้วบันทึกผลการทดสอบ (Pretest) ดำเนินการสอนกลุ่มทดลองด้วยตนเอง ตามแผนการจัดประสบการณ์การสอนโดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ที่ได้สร้างขึ้น ดังนี้

ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียนโดยการสร้างบรรยากาศในชั้นเรียน ที่ส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงความคิดเห็นและลองทำสิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเอง ในขณะเดียวกันก็ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม เช่น ช่วยเตรียมอุปกรณ์ กระตุ้นเด็กด้วยคำชมเชย หรือค่อยแนะนำเด็ก ๆ

ขั้นที่ 2 ขั้นสอน ผู้สอนสาธิตขั้นตอนให้เด็กปฐมวัยดูและปฏิบัติตามขั้นตอนและได้มอบหมายกิจกรรมศิลปะ ให้เด็กไปทำที่บ้านร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อให้การเรียนรู้ต่อเนื่องนอกเวลาเรียน ตลอดช่วงการดำเนินงาน ผู้จัดทำจดบันทึกพฤติกรรมและความก้าวหน้าของเด็กแต่ละคน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผล

ขั้นที่ 3 เด็กปฐมวัยได้ลงมือปฏิบัติตามแผนการจัดกิจกรรม กับเด็กปฐมวัยโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 พร้อมทั้งสังเกตและบันทึกพฤติกรรม โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมด 4 สัปดาห์/สัปดาห์ละ 2 วัน คือ จันทร์ และพุธ วันละ 30 นาที

ขั้นที่ 4 สังเกตและบันทึกพฤติกรรมเด็กปฐมวัยเป็นรายบุคคล โดยมีงานนำกลับไปให้ผู้ปกครองได้ร่วมวางแผนการทำและนำกลับนำเสนอในครั้งต่อไป

ขั้นที่ 3 การตรวจสอบ (Check)

ตรวจสอบผลการจัดประสบการณ์และนำแบบประเมิน ดำเนินการทดสอบหลังการสอน (Post-test) โดยใช้แบบประเมินการจัดกิจกรรมพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ชุดเดียวกันกับที่ใช้ทดสอบก่อนการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 27 คน แล้วบันทึกผลการทดสอบ แล้วนำคะแนนที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูล โดยหาค่าร้อยละและนำผลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์คะแนนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 85

ขั้นที่ 4 การปรับปรุงการดำเนินงาน (Act)

หลังจากดำเนินการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทดสอบก่อน และหลังการทดลองสอนโดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ วิเคราะห์ผลต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบทั้งสองครั้ง ด้วยวิธีการทางสถิติ นำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ให้ดีขึ้นปรับปรุงกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัยความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็กปฐมวัย

3. ผลการดำเนินงาน/ประโยชน์ที่ได้รับ

3.1 ผลการดำเนินงาน เราจะเห็นพัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์จากจินตนาการและความเป็นตัวของตัวเอง

ในงานของเด็กปฐมวัย ไม่จำเป็นต้องคล่องแคล่วหรือชำนาญในการทำผลงาน แต่ในรูปแบบของการสร้างสรรค์เด็กปฐมวัยต้องอิสระทางอารมณ์ มีอิสระที่จะสำรวจและทดลองมีอิสระที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องรับรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งในการใช้วัสดุและเรื่องราวในการวาดภาพ งานศิลปะทุกชิ้นที่เป็นผลงานของเด็กปฐมวัยถือว่าเป็นประสบการณ์การทำงานเชิงสร้างสรรค์ในตัวเองทั้งสิ้นผลการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมในระดับชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวิทยสัมพันธ์ ครบ 4 สัปดาห์

โพสต์โดย ส้ม : [13 พ.ค. 2568 (23:08 น.)]
อ่าน [58845] ไอพี : 223.207.225.46
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 25,983 ครั้ง
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว
วิธีการลดขนาดภาพ โดยลดขนาดความกว้างของภาพหลายภาพในครั้งเดียว

เปิดอ่าน 13,752 ครั้ง
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"
ผงะนมเสียผุดก๊าซพิษร้ายเทียบเท่า"ควันรถ"

เปิดอ่าน 15,142 ครั้ง
ไส้เดือนดิน
ไส้เดือนดิน

เปิดอ่าน 10,973 ครั้ง
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน
อยากได้งาน ตกงานต้องอ่าน? เทคนิคหางานแบบเซียนตัดเซียน

เปิดอ่าน 566 ครั้ง
ขอบยาง (Tire Bead) คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรในยางรถยนต์
ขอบยาง (Tire Bead) คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรในยางรถยนต์

เปิดอ่าน 31,079 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553

เปิดอ่าน 83,135 ครั้ง
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ขั้นตอนวิธีการจุดธูปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เปิดอ่าน 19,676 ครั้ง
โมกบ้าน
โมกบ้าน

เปิดอ่าน 10,863 ครั้ง
9 ปัญหาสุขภาพ ที่ควรบอกผ่านการขับรถ
9 ปัญหาสุขภาพ ที่ควรบอกผ่านการขับรถ

เปิดอ่าน 5,605 ครั้ง
สีเสื้อมงคล 2567 เสริมดวงปัง ตลอดปี
สีเสื้อมงคล 2567 เสริมดวงปัง ตลอดปี

เปิดอ่าน 7,972 ครั้ง
การกำหนดประเภทของงานตรวจสอบภายใน (กรมบัญชีกลาง 23 ธันวาคม 2563)
การกำหนดประเภทของงานตรวจสอบภายใน (กรมบัญชีกลาง 23 ธันวาคม 2563)

เปิดอ่าน 10,848 ครั้ง
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ
"กานพลู" เครื่องเทศ ต่อต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 18,854 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 2,380 ครั้ง
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"
การป้องกันการเกิดอาการ "ฮีทสโตรก"

เปิดอ่าน 22,782 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู

เปิดอ่าน 12,897 ครั้ง
ระวัง! หยุดหายใจขณะหลับ
ระวัง! หยุดหายใจขณะหลับ
เปิดอ่าน 12,416 ครั้ง
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ
7 หลักเลี่ยงไขมันพอกตับ
เปิดอ่าน 14,828 ครั้ง
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก
คลิปสุดฮา ฝรั่งเผยโดนคนไทยด่าครั้งแรก
เปิดอ่าน 14,752 ครั้ง
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
เปิดอ่าน 40,372 ครั้ง
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย
6 หนทางสู่ความร่ำรวยตั้งแต่อายุยังน้อย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ