บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมอง เป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา วิธีดำเนินการวิจัยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา (R&D) มี 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบ ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบ และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านกะลาพอ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 18 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์ 2) แบบสอบถาม 3) แบบบันทึกสนทนากลุ่ม 4) คู่มือการใช้รูปแบบ 5) แผนการจัดการเรียนรู้ 6) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 7) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และ 8) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิด การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ พบว่า จากการสัมภาษณ์ครูผู้สอน แนวทางในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ได้แก่ ผู้เรียนควรเรียนรู้และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เพราะถ้าผู้เรียน ได้เรียนรู้และแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ผู้เรียนจะมีความรู้ความเข้าใจที่คงทนกว่าการสอนแบบท่องจำ และเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เเรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะใช้ความรู้ความเข้าใจ การแสดงความคิดเห็น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่ดีขึ้น และจากการสอบถามความต้องการนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนรายวิชาคณิตศาสตร์ อยู่ในระดับมากที่สุด
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ที่สร้างขึ้น ประกอบด้วย 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ และ 4) การวัดและประเมินผล โดยมีกระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ขั้นเตรียมสมองลองปัญญา ขั้นที่ 2 ขั้นนำเสนอความรู้ ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและวิเคราะห์คำตอบ และขั้นที่ 4 ขั้นดำเนินการแก้ปัญหาและสรุปผล และผลการประเมินรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนการสอน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้ สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียน พบว่า
3.1 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เท่ากับ 79.58/78.06 ถือว่ามีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ 75/75
3.2 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละการพัฒนา 55.25
3.3 นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละการพัฒนา 71.86
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้ สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ พบว่า
4.1 ผลการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้ สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในปีการศึกษา 2567 คิดเป็นร้อยละ 79.72 สูงกว่าปีการศึกษา 2566 คิดเป็นร้อยละ 77.17 ผลต่างร้อยละ 2.55
4.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและกระบวนการแก้ปัญหา ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.56, = 0.51)