๒. วัตถุประสงค์
๒.๑ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนระดับประถมศึกษาสามารถอ่านออกเสียงได้อย่างถูกต้องชัดเจนและคล่องแคล่ว
๒.๒ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนของนักเรียนผ่านกิจกรรมหลากหลาย
๒.๓ เพื่อให้ครูสามารถใช้กระบวนการ PDCA ในการพัฒนาการจัดกิจกรรมอ่านออกเสียงอย่างเป็นระบบ
๓. กระบวนการดำเนินงาน
ปฏิบัติครบวงจรโดยประยุกต์ใช้วงจรเดมมิ่ง (Deming Cycle) ภายใต้กระบวนการ PDCA มีวิธีการดำเนินงานอย่างชัดเจน ดังต่อนี้
ขั้นที่ ๑ ขั้นวางแผน (Plan)
ในขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (Plan) ตั้งเป้าหมายร่วมกับเด็ก ชวนเด็กมาร่วมกำหนดเป้าหมายง่าย ๆ เช่น "สัปดาห์นี้เรามาอ่านนิทานเล่มนี้ให้จบกันนะ" หรือ "ลองเขียนชื่อเพื่อนในห้องให้ได้ทุกคนดูไหม" การที่เด็กได้มีส่วนร่วมจะสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ
- สำรวจความสนใจของเด็ก: สังเกตว่าเด็กสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ เช่น ไดโนเสาร์ เจ้าหญิง หรือการ์ตูน เพื่อเลือกหนังสือ นิทาน หรือหัวข้อการเขียนที่สอดคล้องกับความสนใจนั้น จะช่วยจุดประกายความอยากเรียนรู้
- เตรียมสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าดึงดูด 1. สำหรับการอ่าน เลือกหนังสือภาพสีสันสดใส นิทานที่มีคำคล้องจอง หนังสือ Pop-up หรือแอปพลิเคชันสอนอ่านที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ 2. สำหรับการเขียนเตรียมสมุดวาดเขียนสีสวย ๆ ดินสอสี ดินสอไม้ที่จับถนัดมือ กระดานไวท์บอร์ดเล็ก ๆ หรือดินน้ำมันให้เด็กได้ปั้นเป็นตัวอักษร
- ออกแบบตารางเวลาที่ยืดหยุ่นและเป็นกันเอง: กำหนดช่วงเวลาสั้น ๆ (15-30 นาที) ในแต่ละวันหรือสัปดาห์ที่เด็กและผู้ปกครอง/ครูสามารถอยู่ด้วยกันอย่างผ่อนคลาย อาจจะเป็นช่วงเวลา "นิทานก่อนนอน" หรือ "เวลาเขียนบันทึกประจำวันกับแม่"
ขั้นที่ ๒ การปฎิบัติ (Do)
ขั้นตอนนี้คือหัวใจของสไตล์ "บ้านบุฉนวน" ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานและเป็นธรรมชาติ
1. สร้างบรรยากาศการอ่านที่อบอุ่น
2. อ่านออกเสียงร่วมกัน โดยคุณพ่อคุณแม่หรือครูอ่านออกเสียงอย่างสนุกสนาน ใช้เสียงสูงต่ำ ดัดเสียงตามตัวละคร แล้วให้เด็กอ่านตาม หรืออ่านสลับบทบาทกัน
3. เล่านิทานประกอบภาพ ไม่ต้องเน้นการอ่านตามตัวอักษร แต่ให้เด็กได้จับใจความและเดาเรื่องราวจากภาพ
4. เล่นเกมเกี่ยวกับคำ คือ เกมทายคำจากภาพ เกมหาคำที่ซ่อนอยู่ (Word search) หรือเกมต่อคำศัพท์ง่าย ๆ
5. ชวนอ่านป้ายรอบบ้าน/โรงเรียน: ชี้ชวนให้อ่านป้ายห้องน้ำ ป้ายชื่อต้นไม้ หรือฉลากขนม เพื่อให้เด็กเห็นประโยชน์ของการอ่านในชีวิตประจำวัน
6. ส่งเสริมการเขียนอย่างสร้างสรรค์และอิสระ
7. เริ่มต้นจากการวาดภาพประกอบการเล่าเรื่อง: ให้เด็กวาดภาพสิ่งที่อยากจะเล่า แล้วค่อย ๆ ชวนเขียนคำบรรยายสั้น ๆ ใต้ภาพ
8. สมุดบันทึก "เรื่องราวของฉัน" ชวนเด็กเขียนบันทึกเรื่องราวประจำวันที่น่าสนใจ เขียนความรู้สึก หรือสิ่งที่ประทับใจ โดยไม่เน้นความถูกต้องเป๊ะ ๆ ในช่วงแรก แต่เน้นการกล้าเขียน
9. เขียนจดหมาย/การ์ดถึงคนที่รัก เป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กได้ฝึกการสื่อสารผ่านการเขียนอย่างมีเป้าหมายและมีความหมาย
10. กิจกรรม "เล่าเรื่องจากคำที่กำหนด": ให้คำง่าย ๆ 2-3 คำ แล้วให้เด็กแต่งประโยคหรือเรื่องสั้น ๆ จากคำเหล่านั้น
ขั้นที่ ๓ การตรวจสอบประเมินผล (Check)
การตรวจสอบในสไตล์ "บ้านบุฉนวน" จะเน้นการสังเกตอย่างใกล้ชิดและให้สะท้อนเชิงบวก
1. สังเกตการณ์อ่านและเขียนอย่างใกล้ชิด
- การอ่าน: สังเกตว่าเด็กอ่านคำได้คล่องขึ้นหรือไม่ เข้าใจความหมายของคำที่อ่านหรือไม่ สามารถเล่าเรื่องที่อ่านได้ไหม
- การเขียน ดูว่าเด็กกล้าเขียนมากขึ้นไหม เขียนตัวอักษรได้ถูกต้องตามลำดับเส้นมากขึ้นไหม สะกดคำที่ใช้บ่อย ๆ ได้ถูกต้องขึ้นหรือไม่ เน้นการดูพัฒนาการมากกว่าความสมบูรณ์แบบ
2. ให้คำชมเชยอย่างจริงใจและเฉพาะเจาะจงเช่น "แม่ชอบจังที่หนูอ่านคำนี้ได้แล้ว" "ลายมือหนูสวยขึ้นเยอะเลยนะ" "เรื่องที่หนูเขียนสนุกมากเลย"
- พูดคุยอย่างเปิดใจ ชวนเด็กคุยถึงสิ่งที่อ่านและเขียน "หนูชอบส่วนไหนของนิทานเล่มนี้ที่สุด?" "ทำไมหนูถึงวาดรูปนี้" เพื่อให้เข้าใจความคิดของเด็ก
3. จดบันทึกพัฒนาการ อาจจะทำเครื่องหมายในตารางคำที่เด็กอ่านได้ หรือเก็บผลงานเขียนของเด็กไว้ เพื่อให้เห็นพัฒนาการเป็นรูปธรรม
ขั้นที่ ๔ การปรับปรุงพัฒนา (Act)
ขั้นตอนนี้คือการนำผลจากการสังเกตมาปรับปรุงวิธีการและเป้าหมาย โดยเน้นความยืดหยุ่นและเป็นกำลังใจ
1. ปรับแผนตามความก้าวหน้าและความสนใจ:
2. หากเด็กอ่านคล่องขึ้นแล้ว อาจจะลองเพิ่มระดับความยากของหนังสือ หรือหาหนังสือชุดใหม่ที่เด็กสนใจ
3. หากเด็กยังติดขัดกับการเขียนคำบางคำ ให้สร้างเกมหรือกิจกรรมที่เน้นคำเหล่านั้นซ้ำ ๆ แต่ทำให้ต่างออกไป เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกเบื่อ
4. ถ้าเด็กสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ ให้หาหนังสือ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องมาเสริม เช่น ถ้าชอบสัตว์ ก็อาจจะให้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์
5. ลองใช้วิธีการใหม่ หากวิธีเดิมไม่ค่อยได้ผล ลองเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ เช่น จากอ่านหนังสือจริงเป็นแอปพลิเคชัน หรือจากคัดลายมือเป็นสร้างเรื่องจากภาพ
6. ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายเล็กน้อย: เมื่อเด็กบรรลุเป้าหมายเดิมแล้ว ให้ชวนกันตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นอีกนิด เพื่อให้เด็กได้รู้สึกถึงความสำเร็จและอยากพัฒนาตัวเองต่อไป
7. สร้างความต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทำให้การอ่านการเขียนเป็นกิจวัตรประจำวันในบ้าน ให้เด็กเห็นว่าการอ่านการเขียนไม่ใช่แค่เรื่องที่ต้องเรียน แต่เป็นทักษะที่ใช้ได้จริงและสนุกสนาน
การใช้กระบวนการ PDCA ในสไตล์ "บ้านบุฉนวน" จะช่วยให้การพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ของเด็กประถมเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ สนุกสนาน และมีประสิทธิภาพ เด็กจะเติบโตขึ้นด้วยความรักในการเรียนรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต
๔. การประเมินผล
จากการพัฒนาวิธีปฏิบัติแบบอย่างที่ดี (Best Practice) โดยการประยุกต์ใช้วงจรเดมมิ่ง (Deming Cycle) ภายใต้กระบวนการ PDCA นั้นมีการประเมินด้านความสำเร็จ ความต่อเนื่อง และความพึงพอ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง คือ ผู้บริหารโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความพึงพอใจวิธีปฏิบัติแบบอย่างที่ดี (Best Practice) อยู่ในระดับมากที่สุด
๕. ผลการดำเนินงานที่ส่งผลที่ดีต่อผู้เรียน
๕.๑ ผู้เรียนระดับประถมศึกษาสามารถอ่านออกเสียงได้อย่างถูกต้องชัดเจนและคล่องแคล่วถูกต้องมากกว่า 95 %
๕.๒ พัฒนาทักษะการอ่านการเขียนของนักเรียนผ่านกิจกรรมหลากหลาย
๕.๓ ครูสามารถใช้กระบวนการ PDCA ในการพัฒนาการจัดกิจกรรมอ่านออกเสียงอย่างเป็นระบบ
๕.๔ ผู้ปกครองมีบทบาทในการส่งเสริมการอ่าน
๖. ปัจจัยหรือสิ่งสนับสนุนที่ให้เกิดความสำเร็จ
ปัจจัยภายใน
- ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วนฝ่ายตั้งแต่ผู้บริหาร คณะครู และนักเรียนมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาการอ่านการเขียน
- การสนับสนุนจากผู้บริหารสถานศึกษาความร่วมมือของครูและบุคลากรทางการศึกษาการนิเทศติดตามอย่างต่อเนื่องการมีสื่อการสอนที่มีคุณภาพและเพียงพอการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
- ผู้บริหารสถานศึกษานิเทศ กำกับ ติดตาม การทำงานอย่างเป็นระบบ ดำเนินการตามแผน
การนิเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ปัจจัยภายนอก
- ชมรมครูภาษาไทย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมการสอนภาษาไทยและการเผยแพร่ผลงาน
- เครือข่ายครูภาษาภาษาไทย เครือข่ายโรงเรียนซับใหญ่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมการสอนภาษาไทยและการเผยแพร่ผลงาน
- สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๓ จัดประกวดการคัดเลือกครูผู้สอนเพื่อรับ
รางวัลครูต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกทุกปีการศึกษา
๗. ชื่อบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่ให้การยอมรับ
สถานศึกษาได้รับรางวัล ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ภาพรวมระดับโรงเรียน พบว่า ภาพรวมทั้ง ๒ ด้าน ในปีการศึกษา ๒๕๕๖ มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๘๘.๒๒ ซึ่งสูงกว่าระดับประเทศ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
๘. การเผยแพร่แบบอย่างที่ดี
สถานศึกษามีการเผยแพร่ผลงานผ่านเว็บไซต์ครูบ้านนอก และในเพจ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต ๓ ในเพจเฟซบุ๊กโรงเรียนบ้านบุฉนวน โรงเรียนบ้านบุฉนวน แจ้งข่าวสาร ทางไลน์กลุ่มผู้ปกครอง และกลุ่มคณะกรรมการสถานศึกษา และมีสถานศึกษามาศึกษาดูงาน เช่น โรงเรียนไทรัฐ ๑๙ อำเภอเมือง จังหวัด ชัยภูมิ และโรงเรียนบ้านค่ายทะยิง อำเภอ ด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา และโรงเรียนบ้านโนนสะอาด เข้ามาศึกษาดูงานและนำนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการอ่านเขียน จากการตรวจสอบโดยการสัมภาษณ์ สอบถาม พบว่า โรงเรียนบ้านโนนสะอาด ประสบผลสำเร็จได้รับรางวัล ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖