ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การใช้เกมการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ เรื่องลดราคา

การใช้เกมการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละ เรื่องลดราคา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาผลการใช้เกมการศึกษา (รูปแบบกระดานเกม) ในการพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการลดราคาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 และ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้เกมการศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 หลังจากการเรียนรู้โดยใช้เกมการศึกษา (รูปแบบกระดานเกม)

เรื่องโจทย์ปัญหาการลดราคา ของนักเรียนกลุ่มเดียวกันหลังจากการเรียนรู้ด้วยเกมดังกล่าว งานวิจัยนี้ดำเนินการเพื่อตอบสมมติฐานที่ว่า นักเรียนมีความรู้และทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการลดราคาหลังการใช้เกมการศึกษาสูงกว่าก่อนการใช้ และมีความพึงพอใจในการใช้เกมการศึกษาในระดับดีขึ้นไป

กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลนครพิษณุโลก

จำนวน 31 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยเป็นคณิตศาสตร์เรื่องโจทย์ปัญหาการลดราคา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีขอบเขตของเนื้อหาที่เน้นคือการคำนวณโจทย์ปัญหา การคำนวณหาจำนวนที่ลดราคา การคำนวณหาราคาหลังลดราคา และการแก้โจทย์ปัญหาแบบประยุกต์ ตัวแปรต้นที่ศึกษาคือเกมการศึกษาที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะดังกล่าว ขณะที่ตัวแปรตามได้แก่ ความรู้ความเข้าใจในหลักการและวิธีการคำนวณเกี่ยวกับโจทย์ปัญหาลดราคา, ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาเรื่องร้อยละ (ความสามารถในการทำความเข้าใจโจทย์, วางแผน, ลงมือแก้ปัญหา, ตรวจสอบคำตอบ), และระดับคุณภาพของการใช้เกมการศึกษา ซึ่งคาดหวังให้มีระดับคุณภาพมากที่สุด

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาการลดราคามีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

2.ความพึงพอใจของนักเรียนในการเรียนรู้โดยใช้เกมการศึกษา (รูปแบบกระดานเกม) เรื่องโจทย์ปัญหาการลดราคาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 พบว่ามีค่าเฉลี่ย 4.74 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.22 แสดงให้เห็นว่ามีระดับความพึงพอใจในการใช้เกมการศึกษาอยู่ในระดับมากที่สุด

ซึ่งสะท้อนถึงผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่เกิดขึ้นจากการใช้เกม

ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการวิจัยไปใช้คือ ครูผู้สอนควรพิจารณานำเกมการศึกษา (รูปแบบกระดานเกม) ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เรื่องร้อยละหรือเนื้อหาอื่น ๆ ที่เหมาะสม โรงเรียนควรส่งเสริมการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ที่เป็นเกมการศึกษา และผู้ปกครองสามารถนำเกมไปใช้เป็นกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ที่บ้านได้ สำหรับข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต ควรมีการวิจัยในกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือในโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ควรพัฒนาเกมการศึกษาในรูปแบบอื่น ๆ (เช่น เกมคอมพิวเตอร์, เกมออนไลน์) หรือสำหรับเนื้อหาคณิตศาสตร์อื่น ๆ ที่นักเรียนประสบปัญหา ตลอดจนการศึกษาผลของการใช้เกมการศึกษาในระยะยาวและเปรียบเทียบผลกับวิธีการสอนแบบปกติ รวมถึงการศึกษาปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อความสำเร็จของการใช้เกมการศึกษา เช่น เจตคติของครูผู้สอนและการสนับสนุนจากผู้บริหาร

โพสต์โดย ใหม่ : [4 มิ.ย. 2568 (20:35 น.)]
อ่าน [59799] ไอพี : 223.207.225.156
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 38,507 ครั้ง
Download คู่มือ เส้นทางครูมืออาชีพสำหรับครูผู้ช่วย
Download คู่มือ เส้นทางครูมืออาชีพสำหรับครูผู้ช่วย

เปิดอ่าน 13,848 ครั้ง
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ

เปิดอ่าน 30,444 ครั้ง
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก
อกคศ.เขตพื้นที่ฯ เลื่อนเงินเดือนครู : ต้อนคนเข้าพวก

เปิดอ่าน 10,270 ครั้ง
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก
ฮิตทะลุโลก เผยยอดผู้ใช้เฟซบุ๊คมีจำนวนกว่าครึงพันล้านคน ใหญ่เท่ากับปท.อันดับสามของโลก

เปิดอ่าน 73,101 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 5 ผู้ตัดสิน (The Referee)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 5 ผู้ตัดสิน (The Referee)

เปิดอ่าน 4,404 ครั้ง
ประโยชน์ของขมิ้นชัน
ประโยชน์ของขมิ้นชัน

เปิดอ่าน 5,645 ครั้ง
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ

เปิดอ่าน 13,598 ครั้ง
ผักบร็อคโคลี่...รักษาโรคอัลไซเมอร์
ผักบร็อคโคลี่...รักษาโรคอัลไซเมอร์

เปิดอ่าน 5,082 ครั้ง
"ไหว้ 4 สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ค้าขายรุ่งเรือง
"ไหว้ 4 สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ค้าขายรุ่งเรือง

เปิดอ่าน 35,481 ครั้ง
ประวัติศาสนาพุทธ
ประวัติศาสนาพุทธ

เปิดอ่าน 20,451 ครั้ง
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา
มโนทัศน์ของเทคโนโลยีการศึกษา

เปิดอ่าน 18,755 ครั้ง
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต

เปิดอ่าน 12,793 ครั้ง
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก

เปิดอ่าน 10,435 ครั้ง
วันปิยมหาราช
วันปิยมหาราช

เปิดอ่าน 15,388 ครั้ง
ความหมายของของขวัญ
ความหมายของของขวัญ

เปิดอ่าน 39,316 ครั้ง
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน
เจ๋งอะ! มาดูวิธีวาดภาพสามมิติแบบง่ายๆ กัน
เปิดอ่าน 21,388 ครั้ง
วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา
เปิดอ่าน 9,720 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์
เปิดอ่าน 9,701 ครั้ง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
ประกันรถยนต์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ยังไง
เปิดอ่าน 22,551 ครั้ง
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์
20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ