|
Advertisement
|
ผู้วิจัย นางสาวสายรัตน์ เสาประโคน วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษโรงเรียนบ้านเสกกอง
ปีที่วิจัย 2566-2567
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ โดยมีรูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยผสมผสาน (Mixed Method Research) ทั้งวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Method) และเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และแนวทางการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 (2) สร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 (3) ทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 และ (4) ประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 การดำเนินการวิจัย แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และแนวทางการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนบ้านเสกกอง จำนวน 14 คน ขั้นตอนที่ 2 สร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 11 คน ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 104 คน และขั้นตอนที่ 4 ประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนบ้านเสกกอง จำนวน 14 คน (จากประชากร) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 104 คน และผู้ปกครองนักเรียนนักเรียน จำนวน 140 คน รวมทั้งสิ้น 258 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพื้นฐาน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และแนวการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า 1.1) ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่พึงประสงค์การบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันเพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และสภาพที่พึงประสงค์เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และ 1.2) ผลการศึกษาแนวทางการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จากการศึกษาดูงานจากโรงเรียนที่มีความเป็นเลิศ (Best Practice) ด้านการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลปราสาทศึกษาคาร โรงเรียนบ้านแนงมุด และโรงเรียนบ้านหนองคันนา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้รับผิดชอบงานการดำเนินงานตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษา และครูผู้สอน สรุปผลการสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) การวางแผน (Plan) 2) การวิเคราะห์องค์การ (Organize) 3) การปฏิบัติตามแผน (Do) และ4) การควบคุม (Control) และสรุปผลการสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกับสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกองสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ประกอบด้วย 4 ด้าน 1) รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี 2) ปฏิบัติสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ดีงาม 3) ปฏิเสธสิ่งที่ผิด สิ่งที่ชั่ว และ 4) ช่วยกันสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง
2. ผลการสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า 2.1) ผลการสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 มี 4 องค์ประกอบ คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ ขั้นตอน วิธีดำเนินการ และการวัดผลและประเมินผล และผลการสร้างคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) คำชี้แจงในการใช้คู่มือ 2) บทนำ 3) วัตถุประสงค์ 4) เนื้อหาสาระและขั้นตอนการดำเนินงาน และ5) การวัดและประเมินผล และ 2.2) ผลการตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 1๑ คน โดยใช้แบบสอบถาม พบว่า ความเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ผลการปฏิบัติการสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และผลการประเมินพฤติกรรมบ่งชี้ ในการน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 54 คน มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม พบว่า พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอไม่นำของของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 81.48 ไม่ลอกการบ้าน คิดเป็นร้อยละ 59.26 ทำตามข้อตกลงของชั้น คิดเป็นร้อยละ 79.63 ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คิดเป็นร้อยละ 79.63 พูดความจริงไม่โกหก คิดเป็นร้อยละ 85.19 ไม่ทำลายสิ่งของส่วนรวม คิดเป็นร้อยละ 94.44 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ คิดเป็นร้อยละ 79.63 และช่วยดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คิดเป็นร้อยละ 96.30 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 58 คน มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม พบว่า พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ไม่นำของของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 94.83 พูดความจริงไม่โกหก คิดเป็นร้อยละ 87.93 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 84.48 ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คิดเป็นร้อยละ 68.97 ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ คิดเป็นร้อยละ 72.41 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติด คิดเป็นร้อยละ 94.83 ช่วยดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คิดเป็นร้อยละ 86.21 เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตนให้มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงมีคุณธรรม คิดเป็นร้อยละ 81.03 และสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 59 คน มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม พบว่า พบว่า พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ไม่นำของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 91.53 ไม่ทุจริตการสอบ คิดเป็นร้อยละ 88.14 พูดความจริงไม่โกหก คิดเป็นร้อยละ 84.75 ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 77.97 ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คิดเป็นร้อยละ 77.97 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ คิดเป็นร้อยละ 76.27 ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดและอบายมุข คิดเป็นร้อยละ 86.44 ไม่มีพฤติกรรมเชิงชู้สาว คิดเป็นร้อยละ 98.31 ไม่ทะเลาะวิวาท คิดเป็นร้อยละ 91.53 ช่วยดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คิดเป็นร้อยละ 93.22 มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น คิดเป็นร้อยละ 91.53 แนะนำผู้อื่นในการปฏิบัติตนให้มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงมีคุณธรรม คิดเป็นร้อยละ 79.66
4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ความเป็นไปได้ ความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และผลการประเมินคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ความเป็นไปได้ ความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากและผลการความพึงพอใจของครูที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และระดับความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเสกกอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
|
โพสต์โดย นางสาวสายรัตน์ เสาประโคน : [10 มิ.ย. 2568 (20:15 น.)] อ่าน [76] ไอพี : 58.10.141.175
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 29,669 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,968 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,781 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,574 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 3,338 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,193 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,459 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,278 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 7,667 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,165 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,054 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,124 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,260 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,244 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,136 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 54,677 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,039 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,519 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,068 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,501 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|