ื่อเรื่อง รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อ
เสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โรงเรียนบนพื้นที่สูง
ผู้วิจัย นายนิติรัฐ วรรณวิริยวัตร
หน่วยงาน โรงเรียนบ้านนาฟ่อน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2566 - 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาและความต้องการ ใน
การใช้รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้าง
สมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โรงเรียนบนพื้นที่สูง 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาระบบ
นิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
ของครู โรงเรียนบนพื้นที่สูง 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการ
เรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
โรงเรียนบนพื้นที่สูง และ 4) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการ
เรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
โรงเรียนบนพื้นที่สูง การวิจัยนี้เป็นการวิจัย และพัฒนา แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1
การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาและ ความต้องการ ผู้ให้ข้อมูล คือ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิในการสัมภาษณ์
จำนวน 5 คน 2) ครูผู้สอนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 20 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้น
พื้นฐาน จำนวน 2 คน และ ผู้ปกครอง จำนวน 2 คน สำหรับการสนทนากลุ่ม (Focus Group
Discussion) ได้มาโดยการเลือก แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์เอกสาร 2)
แบบสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 3) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบ ผู้ให้ข้อมูล
คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญ ในการจัดสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) จำนวน 11 คน 2) ผู้ทรงคุณวุฒิ
ในการประเมิน ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ จำนวน 9 คน ได้มาโดยการเลือกแบบ
เจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบตรวจสอบความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎีและความ
สอดคล้อง ของร่างรูปแบบ 2) แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ ขั้นตอนที่ 3
การศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง คือ 1) ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 6 จำนวน
20 คน 2) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 จำนวน 140 คน ปีการศึกษา 2562 ได้มา โดยการ
เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การจัดการ
เรียนรู้เชิงรุก 2) แบบประเมินหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้3) แบบประเมิน พฤติกรรมการ
จัดการเรียนรู้ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการพัฒนา ตามรูปแบบการพัฒนา
ครูโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู และขั้นตอนที่ 4 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ
โดยนำรูปแบบที่ผ่านการทดลองใช้ในขั้นตอนที่ 3 มาใช้จริง ในปีการศึกษา 2563 เพื่อประเมินประสิทธิผล
ของรูปแบบและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบให้มีความชัดเจน เข้าใจง่ายและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น กลุ่มตัวอย่าง
คือ 1) ครูผู้สอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 21 คน 2) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
- 6 จำนวน 147 คน ปีการศึกษา 2563 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน Wilcoxon Signed Rank Test และการวิเคราะห์
เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัญหาและความต้องการในการใช้รูปแบบการพัฒนา
ระบบนิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้
เชิงรุกของครู โรงเรียนบนพื้นที่สูง มีดังนี้ 1) ข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาระบบนิเวศ
แนวคิดเกี่ยวกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก แนวคิดเกี่ยวกับ
รูปแบบและการพัฒนารูปแบบ 2) สภาพปัญหาในการจัดการเรียนรู้พบว่า 2.1) การจัดการเรียนรู้ของครู
ส่วนใหญ่ยึดกรอบเนื้อหา ตามหนังสือเรียน เน้นการป้อนเนื้อหาให้ผู้เรียน ใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบ
บรรยายและการสาธิต เป็นหลักขาดการส่งเสริมให้นักเรียนฝึกทักษะด้านการคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหา
2.2) สื่อการเรียนรู้ไม่เพียงพอและไม่มีความหลากหลาย 2.3) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ครูใช้การ
ทดสอบความรู้ ด้วยการใช้แบบทดสอบเป็นหลัก เน้นการวัดด้านความรู้ความเข้าใจ การประเมินผลด้าน
ทักษะและ ความสามารถของนักเรียน พบว่า ครูใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลไม่เหมาะสม 3) ความ
ต้องการของ ครูพบว่า ครูต้องการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้การประยุกต์ใช้วิธีการจัดการ
เรียนรู้ ที่หลากหลาย เหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน การพัฒนาครูควรจะใช้วิธีการที่หลากหลาย และหาก
นำ รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้แบบบูรณาการมาใช้ และใช้ชุมชนการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกมาใช้ ในการพัฒนาครูจะทำให้ครูในโรงเรียนบนพื้นที่สูงได้
ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ในการจัดการเรียนรู้ และครูคาดหวังว่าเมื่อ
ได้รับการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนาครูจะทำให้ครู มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้สูงขึ้น
และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น นักเรียนเกิดการ
เรียนรู้อย่างมีความสุขและเต็มตามศักยภาพ
2. รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูแบบบูรณาการ เพื่อ
เสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โรงเรียนบนพื้นที่สูง ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า Imkh-we
Model ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการพัฒนา มี 5 ขั้น
ได้แก่ ขั้นที่ 1 การสร้างวิสัยทัศน์ ร่วมกัน (Shared Vision: S) ขั้นที่ 2 การเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม (Team
Learning: T) ขั้นที่ 3 การจัด การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning Management: A) ขั้นที่ 4 การ
สะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ (Reflection:R)ขั้นที่5การแสดงผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน (Show
& Share: 2S)4) ระบบ สนับสนุน 5) เงื่อนไขความสำเร็จ 6) การวัดและประเมินผล และผลการประเมิน
ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
ที่สุดและ ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพแบบบูรณา
การ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบนพื้นที่สูง พบว่า 1) ความรู้ความ
เข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ แตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยภาพรวม
อยู่ในระดับมากที่สุด 3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนาครูโดยใช้
ชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ
4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
4. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศชุมชนการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพแบบบูรณาการ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนบนพื้นที่สูง พบว่า
1) ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ
แตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดย
ภาพรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด 3) ความพึงพอใจของครูที่มีต่อกระบวนการพัฒนาตามรูปแบบการพัฒนา
ครูโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
ที่สุด และ 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก
คำสำคัญ : รูปแบบการพัฒนาระบบนิเวศ ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก