ชื่อเรื่อง สื่อนวัตกรรม แผนที่เมืองจำลอง Bangnara Amazing Town เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร เรื่อง Giving Directions โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบ Communicative Language Teaching (CLT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้วิจัย นางสาวนูรไอนิง ดือราซอ
ปีที่ทำการวิจัยพัฒนา 2567
บทคัดย่อ
การพัฒนาสื่อนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ เรื่อง Giving Directions สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบ Communicative Language Teaching (CLT) มีวัตถุประสงค์เพื่อมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและทดลองใช้สื่อนวัตกรรมประกอบการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยเน้นทักษะการฟัง พูด และการสื่อสารเชิงปฏิบัติในหัวข้อ "Giving Directions" สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สื่อนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นคือ แผนที่เมืองจำลอง Bangnara Amazing Town ซึ่งเป็นสื่อแบบกระดานแผนที่เมืองจำลอง ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านสถานการณ์จำลอง นักเรียนสามารถใช้ประโยคภาษาอังกฤษในการถามตอบเส้นทางในบริบทที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบ Communicative Language Teaching (CLT)
กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๕ (วัดประชาภิรมย์) จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประสิทธิภาพของสื่อนวัตกรรม แบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อสื่อนวัตกรรม
นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 6.00 หรือคิดเป็นความก้าวหน้าเท่ากับ 40.00 % แสดงให้เห็นว่าสื่อนวัตกรรม "แผนที่เมืองจำลอง Bangnara Amazing Town" เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร เรื่อง Giving Directions โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบ Communicative Language Teaching (CLT) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษในหัวข้อ Giving Directions อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลการพัฒนาพบว่า
1. นักเรียนมีคะแนนหลังเรียน (Post-test) สูงกว่าก่อนเรียน (Pre-test) อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ยคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อยู่ที่ 40.00 % สะท้อนถึงความเข้าใจในเนื้อหา Giving Directions มากขึ้น
2. ค่าประสิทธิภาพของสื่อ (E1/E2) สูงกว่ามาตรฐาน 80/80
ค่าประสิทธิภาพระหว่างเรียน (E1) อยู่ที่ 82.93
ค่าประสิทธิภาพหลังเรียน (E2) อยู่ที่ประมาณ 83.93
บ่งชี้ว่าสื่อนวัตกรรมนี้สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ จากแบบสอบถามความพึงพอใจ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉลี่ยเท่ากับ 4.51