ปัจจุบันประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมตลอดเวลาและเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ทำให้ประชาชนในชาติเกิดการแข่งขันกันเพื่อความอยู่รอดและสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง
สภาพของสังคมไทยโดยรวมจึงเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยมีความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาพฤติกรรมของคนในสังคมตามมาคือ การหย่อนในศีลธรรม จริยธรรมขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ เกิดการเอารัดเอาเปรียบกันของคนในสังคม ส่งผลให้วิถีชีวิตและค่านิยมดั้งเดิมที่ดีงามของคนไทยเริ่มจางหายไปพร้อม ๆ กับการล่มสลายของสถาบันครอบครัว ชุมชน และวัฒนธรรมท้องถิ่น (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2564 : 8) "จริยธรรม" จึงเป็นเรื่องที่ได้รับการกล่าวถึงมากเรื่องหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้สภาพสังคมที่สับสน วุ่นวาย ขาดความสงบสุข อันเนื่องมาจากสมาชิกในสังคมประพฤติหรือปฏิบัติไม่เหมาะสมเพราะคนในปัจจุบันด้อยหรือไร้จริยธรรม (สงบ ลักษณะ 2562 : 30) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จริยธรรม ด้านความรับผิดชอบ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (2563 : 3) ได้จัดลำดับความสำคัญเกี่ยวกับความรับผิดชอบไว้เป็นอันดับหนึ่งร่วมกับการพึ่งตนเองและความขยันหมั่นเพียรและจากผลการวิจัยของ ธวัชชัย ชัยจริยฉายากุล (2560 : บทคัดย่อ) ซึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับค่านิยม พื้นฐานทางจริยธรรมของไทยอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปลูกฝังจริยธรรมแก่เยาวชนโดยดำเนินการจัดลำดับความสำคัญของค่านิยมพื้นฐานทางจริยธรรม 10 ลำดับ ได้ผลสอดคล้องกันว่า ความรับผิดชอบเป็นค่านิยมพื้นฐานทางจริยธรรมที่สำคัญ และควรเร่งปลูกฝังให้กับคนไทยเป็นอันดับหนึ่ง และจากโครงการศึกษาศักยภาพ
ของเด็กไทยของกองวิจัยทางการศึกษา กรมวิชาการ (2561ก : บทนำ) พบว่า การพัฒนาศักยภาพ
ของเด็กไทยด้านความรับผิดชอบและมีวินัยในตนเองควรมีการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพให้เกิดขึ้นกับเด็ก
ให้มีคุณลักษณะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ความรับผิดชอบจึงนับเป็นค่านิยมพื้นฐาน
ทางจริยธรรมที่มีความสำคัญและจำเป็นมากที่สุด (ไพฑูรย์ สินลารัตน์ 2561 : 33-34) ทั้งนี้เนื่องจาก
เมื่อบุคคลมีความรับผิดชอบหากจะต้องปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ก็ย่อมสามารถทำงานได้สำเร็จเป็นที่น่าเชื่อถือ
และนำมาซึ่งความสำเร็จของชีวิตการทำงานในที่สุด ความรับผิดชอบยังเป็นเครื่องแสดงถึงความเป็นผู้มี
วุฒิภาวะด้านอุปนิสัยและเป็นส่วนประกอบที่สำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิตในสังคม ซึ่งหากทุกคนในสังคม
รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ต่าง ๆ อย่างดีแล้ว ก็ย่อมทำให้เกิดสันติ ตลอดจนความเจริญงอกงามขึ้นในสังคม
(วารี ศิริเจริญ 2562 : 3)
ความรับผิดชอบ จึงเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่จะส่งผลการพัฒนา เพื่อเป็นพลเมืองที่ดีและสำคัญ
อีกอย่างหนึ่ง ความรู้สึกรับผิดชอบ เปรียบได้กับนิสัยและทัศนคติของบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องผลักดันให้เกิด
การปฏิบัติตามระเบียบ เคารพสิทธิของผู้อื่น มีความรับผิดชอบต่อตนเองและมีความรับผิดชอบที่มีต่อตนเองและส่วนร่วม อันจะช่วยให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปด้วยความราบรื่น สงบสุข ฉะนั้น ความรับผิดชอบจึงเป็นปัจจัยคุณธรรม ที่จะส่งเสริมให้นักเรียนนั้นได้ทราบหน้าที่อันพึงปฏิบัติในการอยู่ร่วมกับคนในสังคมต่อไป
อริยสัจ 4 (อริยสัจจธรรม 4) เป็นหลักธรรมคำสอนที่สำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเป็นครั้งแรกในการแสดงปฐมเทศนา คือ ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย ถือเป็นหลักธรรมที่แสดงให้เห็นถึงความจริงอันประเสริฐที่ควรเข้าใจและปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์
อริยสัจ 4 ประกอบด้วย (1) ทุกข์ หมายถึง ความจริงของความทุกข์ในชีวิต (2) สมุทัย คือ สาเหตุของทุกข์ ซึ่งเกิดจากตัณหา ความอยาก (3) นิโรธ คือ ความดับทุกข์ หรือภาวะที่พ้นจากตัณหา และ (4) มรรค หมายถึง แนวทางปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ ได้แก่ มรรคมีองค์ 8
ความสำคัญของอริยสัจ 4 อยู่ที่การเป็นหลักธรรมกลางซึ่งนำไปสู่การพ้นทุกข์อย่างถาวร ถือเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ผู้ใดเข้าใจอริยสัจ 4 ผู้นั้นย่อมเข้าใจธรรมทั้งปวง โดยหลักธรรมดังกล่าวยังสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้บุคคลสามารถเข้าใจปัญหา วิเคราะห์สาเหตุ และกำหนดแนวทางแก้ไขอย่างมีระบบ จึงได้มีการออกแบบ โมเดล CARE ขึ้นมา ซึ่งย่อมาจาก Confront Analyze Resolve Execute & Evaluate แต่ละขั้นตอนของโมเดลนี้สอดคล้องกับอริยสัจ 4 อย่างเป็นระบบ และสามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาความรับผิดชอบอย่างยั่งยืนได้
เริ่มต้นจากขั้นตอนแรกของโมเดล CARE คือ Confront (เผชิญความจริง) ซึ่งสะท้อนกับหลัก ทุกข์ เพราะนักเรียนต้องยอมรับว่าตนเองมีปัญหาในการรับผิดชอบ เช่น การไม่ส่งงานตามกำหนด ละเลยหน้าที่ หรือไม่ตั้งใจเรียน การเผชิญกับปัญหาโดยไม่หลีกเลี่ยงคือก้าวแรกของการพัฒนา ซึ่งการตระหนักรู้นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ถัดมาคือ Analyze (วิเคราะห์สาเหตุ) ซึ่งสอดคล้องกับ สมุทัย หรือการเข้าใจเหตุแห่งทุกข์ นักเรียนจะต้องถามตนเองว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนเองไม่รับผิดชอบ เช่น ความขี้เกียจ การจัดเวลาไม่เป็น หรือสิ่งแวดล้อมที่รบกวน การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้สามารถมองเห็นรากของปัญหา ไม่โทษผู้อื่น และเปิดโอกาสให้ตนเองเติบโตจากความเข้าใจแท้จริง
ขั้นตอนต่อไปคือ Resolve (ตั้งใจแก้ไข) ซึ่งตรงกับหลัก นิโรธ คือการเห็นทางออกจากทุกข์ นักเรียนจะต้องตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนและวางแผนเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ตั้งเป้าว่าจะส่งงานให้ตรงเวลาทุกครั้ง หรืออ่านหนังสือให้ครบตามที่วางไว้ในแต่ละสัปดาห์ การมีเป้าหมายทำให้การพัฒนาเป็นรูปธรรมและมีทิศทาง
สุดท้ายคือ Execute & Evaluate (ลงมือทำและประเมินผล) ซึ่งสัมพันธ์กับ มรรค หรือทางแห่งการดับทุกข์ โดยนักเรียนจะเริ่มลงมือทำตามแผนที่วางไว้ ติดตามผลด้วยตนเอง และรับฟังข้อเสนอแนะจากครูหรือเพื่อน ขั้นตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่การทำให้เสร็จ แต่คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบอุปสรรคก็ปรับปรุงใหม่ เป็นวงจรแห่งการเรียนรู้ตลอดเวลา
โดยภาพรวม การนำหลักอริยสัจ 4 มาประยุกต์ใช้ผ่านโมเดล CARE ช่วยให้นักเรียนไม่เพียงแต่ รู้ว่าต้องรับผิดชอบ แต่ยัง เข้าใจ ทำได้ และพัฒนาได้จริง ผ่านการคิด วิเคราะห์ วางแผน และลงมือปฏิบัติ หลักธรรมที่เคยเป็นเรื่องนามธรรมในตำรา กลับกลายเป็นกระบวนการที่จับต้องได้ สร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวผู้เรียนอย่างลึกซึ้งและยั่งยืน นี่คือการบูรณาการธรรมะเข้ากับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมในชีวิตจริงได้อย่างงดงาม
จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และกิจกรรมต่างๆทั้งในและนอกห้องเรียนให้กับนักเรียนทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน พบว่าเด็กนักเรียนมีการขาดความรับผิดชอบและขาดระเบียบวินัยในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ได้แก่ การเข้าเรียนไม่ตรงเวลา การนำงานอื่นที่ไม่เกี่ยวของกับการเรียนขึ้นมาทำขณะครูสอน ส่งงานไม่ทันภายในเวลาที่กำหนด ไม่นำอุปกรณ์การเรียนมาตามที่ได้รับมอบหมาย ชอบพูดคุยกันเวลาครูสอน การไม่ติดตามงานและแก้ไขงานให้ถูกต้อง พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียน ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ และทำให้เกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาต่อตนเอง คือเรียนไม่บรรลุผลสำเร็จตามที่มุ่งหวังเอาไว้และยังเป็นปัญหาในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ควรที่จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้นักเรียนมีนิสัยรับผิดชอบต่อตนเองและต่อผู้อื่นให้ได้มากที่สุด ซึ่งคุณครูได้แก้ปัญหาดังกล่าวเบื้องต้น โดยการนำหลักธรรมอริยสัจ 4 เข้ามาเป็นกลไกในการแก้ปัญหานี้
ด้วยเหตุผลข้างต้น ผู้ศึกษาในฐานะครูผู้สอนและครูที่ปรึกษานักเรียน จึงได้คิดค้นนวัตกรรม อริยสัจ 4 สร้างเด็กดี มีความรับผิดชอบ ด้วย CARE MODEL โดยนำหลักธรรมอริยสัจ 4 มาบูรณาการ เพื่อพัฒนานักเรียนให้มีคุณลักษณะคุณธรรมด้านความรับผิดชอบมากขึ้น ประการหนึ่งเพื่อส่งเสริม พัฒนาให้นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทรายให้มีความรับผิดชอบในการเรียนตามความคาดหวังของผู้ปกครอง อีกประการหนึ่งก็เพื่อปลูกฝังคุณธรรม ด้านความรับผิดชอบซึ่งสอดคล้องกับคุณธรรมอัตลักษณ์โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ของโรงเรียนบ้านดอนทรายให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลก่อเกิดความยั่งยืนสืบไป ซึ่งจะได้นำไปใช้กับนักเรียนในที่ปรึกษา นักเรียนในรายวิชา กิจกรรมที่รับผิดชอบ และขยายผลสู่นักเรียนทั้งโรงเรียนต่อไป
2. จุดประสงค์และเป้าหมาย
จุดประสงค์
2.1 เพื่อพัฒนาคุณธรรมด้านความรับผิดชอบของนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทราย ตามหลักธรรมอริยสัจ 4 ด้วยนวัตกรรม อริยสัจ 4 สร้างเด็กดีมีความรับผิดชอบ ด้วย CARE MODEL
2.2 เพื่อยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทราย ด้วยนวัตกรรม
อริยสัจ 4 สร้างเด็กดี มีความรับผิดชอบ ด้วย CARE MODEL
เป้าหมาย
เป้าหมายเชิงปริมาณ : นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทราย จำนวน 168 คน ปีการศึกษา 2567
เป้าหมายเชิงคุณภาพ : นักเรียนโรงเรียนบ้านดอนทราย มีคุณธรรมด้านความรับผิดชอบและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นด้วยรูปแบบนวัตกรรม อริยสัจ 4 สร้างเด็กดีมีความรับผิดชอบ ด้วย CARE MODEL