ครูบ้านนอก

ความสำคัญของผลงานนวัตกรรมที่นําเสนอ

๑. เด็ก คือ อนาคตของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประชากรผู้สูงวัยมีจำนวนมากกว่าเด็กที่เกิดใหม่ซึ่งมีน้อยลงทุกขณะ เราจึงต้องใส่ใจกับอนาคตของชาติอันมีคุณค่าที่มีจำนวนน้อยนิดนี้ ให้เป็นเด็กดีมีคุณธรรมให้เป็นอนาคตที่งดงาม เพื่อนำพาชาติให้อยู่รอดปลอดภัยสืบต่อไปในอนาคต ดังนั้น โครงการโรงเรียนคุณธรรมจึงเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 เป็นโครงการเพื่อสืบสานพระราชปณิธานเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 เพื่อเสริมสร้างระบบคุณธรรมจริยธรรมในรอบรั้วสถานศึกษา การก้าวทันยุคโลกาภิวัตน์ การใช้ภาษาที่ไพเราะถูกต้อง การสร้างเสริมความกตัญญูกตเวทิตา และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นคุณธรรมที่สร้างอนาคตที่งดงาม เพื่อนำพาชาติให้อยู่รอดปลอดภัยสืบ ต่อไปในอนาคต สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๒ พ.ศ ๒๕๔๕ กำหนดจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นคนดี คนเก่ง และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต โรงเรียนในฐานะหน่วยงานทางสังคมที่มีความใกล้ชิดกับนักเรียนมากที่สุดจึงมีภารกิจที่สำคัญในการ พัฒนาเด็กทั้งทางด้านความรู้ และคุณธรรมจริยธรรม โดยอาศัยความร่วมมือในการพัฒนาจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาคุณภาพเด็กให้มีคุณภาพและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่ยั่งยืน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยซึ่งเป็นวัยแรกเริ่มของการเรียนในระดับโรงเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเด็กปฐมวัย เป็นเด็กที่สำคัญที่สุดต่อการเรียนรู้และการพัฒนาทุกด้านของเด็ก เพราะเป็นที่ยอมรับทางด้านวิชาการแล้ว ว่าวัยนี้เหมาะสมกับการวางพื้นฐานของการพัฒนาทุกด้านให้เกิดขึ้นในตัวบุคคล

โรงเรียนวัดบ้านนา(ประชาชนรังสฤษฎิ์) ซึ่งได้กำหนดอัตลักษณ์คุณธรรมของโรงเรียนไว้คือ รู้หน้าที่ มีวินัย ใส่ใจงาน แต่ในสภาพปัญหาปัจจุบันพบว่าพื้นที่บริเวณโรงเรียนวัดบ้านนา (ประชาชนรังสฤษฎิ์) มีขยะตามพุ่มต้นไม้ ทางเดิน และบริเวณเครื่องเล่นสนามเด็กเล่น สาเหตุเนื่องจากนักเรียนในโรงเรียนไม่ชอบเดินไปทิ้งขยะในถังขยะที่เตรียมไว้ให้และทิ้งไม่ลงถังขยะทำให้เวลามีลมจากธรรมชาติมาแรงๆ ทำให้ขยะปลิวไปสู่บริเวณลานกว้างหรือพื้นที่บริเวณโรงเรียน โดยเฉพาะเด็กอนุบาล ชอบทิ้งขยะในห้องเรียน ไม่มีระเบียบวินัย พบว่า ขยะส่วนใหญ่เป็นขวดพลาสติก และถุงขนม

ดังนั้นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนวัดบ้านนา (ประชาชนรังสฤษฎิ์) ปีการศึกษา 2565 จำนวน 17 คน จึงมีความสนใจที่จะแก้ปัญหาขยะที่พบในบริเวณพื้นที่โรงเรียน จึงหาวิธีการขับเคลื่อนแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลงสู่นวัตกรรมสร้างเด็กดีด้วยแผนภูมิตาวิเศษ Project Approach เพื่อฝึกให้นักเรียนมีวินัยในตนเองในเรื่องการทิ้งขยะและมีความรับผิดชอบขยะในมือของตนเองต้องไปทิ้งในถังขยะ มีจิตอาสาในการเก็บขยะตามพื้นไปทิ้งในถังขยะ โดยการบูรณาการการจัดการเรียนรู้ตามแนว Project Approach (การสอนแบบโครงการ) ได้จัดให้มีกระบวนการในรูปแบบ HAPPY Model เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักเรียนไปทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ได้นำวงจรหรือแนวคิดการบริหารงานคุณภาพ PDCA มาใช้เป็นกรอบในการดำเนินการพัฒนานวัตกรรม และพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบไปด้วยการวางแผน P (Plan) การลงมือปฏิบัติ D (Do) การตรวจสอบ C (Check) และการพัฒนาปรับปรุงแก้ไข A (Action) โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน ตามกระบวนการ PDCA ในการบริหารจัดการและการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ HAPPY Model นั้น มีเป้าหมายสำคัญคือ การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการของผู้บริหาร การพัฒนาคุณภาพครู และการพัฒนา คุณภาพผู้เรียน

H – Heart ปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความดีกิจกรรมบ่มเพาะคุณธรรม เช่น สวดมนต์, เล่านิทานคุณธรรม, เขียนบันทึกความดี

A – Action การลงมือทำความดีอย่างต่อเนื่อง โครงการจิตอาสา, ภารกิจความดีรายวันโดยใช้แผนภูมิตาวิเศษ Project Approach, ปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน

P - Positive Thinking การคิดบวกและสร้างกำลังใจ การเรียนรู้เรื่อง EQ, การสะท้อนความคิด, กิจกรรมกำลังใจ เช่น "๑ วัน ๑ คำชม"

P – Participation การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ผู้ปกครอง-ครู-นักเรียน-ชุมชน ทำงานร่วมกันในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม

Y - Yielding Happiness ความสุขจากการทำดี ให้รางวัลทางใจ, การสะท้อนความสุขจากการกระทำดี, ส่งต่อความสุขให้ผู้อื่น

การศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โรงเรียนวัดบ้านนา(ประชาชนรังสฤษฎิ์) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้เป็นผู้เรียนศตวรรษที่ 21 ดังนี้ผู้เรียนของโรงเรียนวัดบ้านนา(ประชาชนรังสฤษฎิ์) ต้องมีคุณลักษณะ 3R 8Cs ดังนี้

3R คือทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อผู้เรียนทุกคน มีดังนี้

1. Reading คือ สามารถอ่านออก

2. (W)Riteing คือ สามารถเขียนได้

3. (A)Rithmatic คือ มีทักษะในการคำนวณ

8C คือ ทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นเช่นกัน ซึ่งทุกทักษะสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนรู้ได้ทุกวิชา มีดังนี้

1. Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมี

วิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้

2. Creativity and innovation คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม

3. Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ

กระบวนการคิดข้ามวัฒนธรรม

4. Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นำ

5. Communication information and media literacy คือ มีทักษะในการสื่อสารและการรู้เท่าทันสื่อ

6. Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี

7. Career and learning skills คือ มีทักษะอาชีพและการเรียนรู้

8. Compassion คือ มีความเมตตากรุณา มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย

การตรวจสอบ (Check) เพื่อตรวจสอบว่าหลังการดำเนินกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ในโรงเรียนแล้วโรงเรียนสามารถดำเนินงานได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่

การดำเนินการปรับปรุงแก้ไข (Action) โดยขั้นนี้จะนำผลที่ได้จากการดำเนินงานและจากการตรวจสอบ (Check) มาวิเคราะห์ว่ายังมีปัญหา ข้อบกพร่องหรือจุดอ่อน ที่ควรมีการปรับปรุงและพัฒนาหรือไม่จากโมเดลข้างต้น ครูจึงได้นำมาบูรณาการส่งเสริมคุณธรรมเด็กปฐมวัยด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนว Project Approach เพื่อพัฒนาส่งเสริมคุณธรรมให้กับเด็กปฐมวัย เพราะการพัฒนาเด็กปฐมวัยเป็นช่วงที่สำคัญและและจำเป็นที่สุดในการพัฒนาสมองอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ ขั้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็ก พัฒนาทุกด้านอย่างองค์รวม และเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ สอดคล้องกับการพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวมทั้งการพัฒนาร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม สติปัญญา และ ในทางสังคมของเด็กอันจะนำไปสู่การสร้าง วินัยและวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สำคัญในการสร้าง คุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม เป็นการพัฒนามนุษย์ ครูผู้สอนจึง ได้มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 เพื่อสนองพระราชกระแสรับสั่งของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๆ ที่ว่าช่วยกันสร้างคนดีให้บ้านเมือง โดยมีการสอดแทรกการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมในกิจกรรมที่สอนให้สอดคล้องกับสภาพจริงของโรงเรียน

จากสภาพปัญหาในปัจจุบันนักเรียนขาดคุณธรรม นักเรียนบางคนมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ผู้สอน จึงค้นหาวิธีการแก้ปัญหาด้วยกิจกรรมการสอนโดยผ่านการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Project Approach (การสอนแบบโครงการ) เป็นการเรียนที่มุ่งเน้นให้เด็กมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้ในสิ่งที่เด็กสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเด็กและตอบสนองตามความต้องการที่หลากหลายของเด็ก ๆ โดยเป็นกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่เน้นให้เด็กลงมือทำได้ด้วยตัวเอง การสอนแบบโครงการนี้ถือเป็นเครื่องมือการสอนที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคุณครู เพราะจะแสดงให้เห็นถึงสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่แนวคิดในเรื่องแห่งความเป็นจริง การตั้งคำถามจากความสนใจที่แท้จริงและการค้นหาคำตอบในเชิงลึกของเด็กในหัวข้อหรือเรื่องที่เด็กสนใจ แล้วยังส่งเสริมทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ผ่านการสำรวจ การสืบค้น การจดบันทึก และการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ข้อมูลและความรู้ต่าง ๆ ตามเรื่องที่เด็กสนใจ ผ่านประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย ตลอดจนการใช้ความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะที่สรุปออกมาเป็นชิ้นงาน รวมถึงในแต่ละกิจกรรมได้สอดแทรกการพัฒนา ผู้เรียนในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และเป็นกระบวนการสร้างคนดีด้วยคุณธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเห็นได้ชัดเจน

เว็บน่าสนใจ