|
Advertisement
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ
ผู้วิจัย นางสาวขวัญพธู อัครจันทร์
ปีที่ศึกษา 2567
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ วิธีดำเนินการวิจัย 4 ระยะ คือ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ โดยใช้แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ จากครูผู้สอนโรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 234 คน ศึกษาโรงเรียนดีเด่นด้านการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำนวน 3 โรงเรียน การสัมภาษณ์เชิงลึก การจัดกลุ่มสนทนา และการสังเกตจากครูผู้สอน ตรวจสอบองค์ประกอบหลัก และองค์ประกอบย่อยของรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ โดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 15 คน 2) สร้างรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ และคู่มือดำเนินการตามรูปแบบ ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบ และประเมินความเหมาะสมของคู่มือโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 9 คน 3) ทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ ในสภาพจริง จำนวน 1 โรงเรียน มีวิธีดำเนินการ 3 ส่วน คือ 3.1) การอบรมตามรูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ ทดสอบก่อนหลังการอบรม 3.2) การทดลองใช้รูปแบบในสภาพจริงเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลองใช้ 3.3) การประเมินความพึงพอใจครูผู้สอนและนักเรียน จากครูผู้สอน จำนวน 47 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 174 คน 4) การประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 13 คน จากการจัดประชุมสนทนากลุ่ม (Focus Group) และประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลสุขสำราญ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ย มากที่สุด คือ ด้านการสร้างขวัญและกำลังใจการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน รองลงมา คือ ด้านการประเมินผลการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการให้ความรู้การนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน
2. รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน มีองค์ประกอบหลัก 5 ด้าน คือ 1) ด้านการวางแผนการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน 2) ด้านการให้ความรู้การนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน 3) ด้านการปฏิบัติการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน 4) ด้านการสร้างขวัญและกำลังใจการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน 5) ด้านการประเมินผลการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ ในสภาพจริง พบว่า 3.1) ผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน พบว่า หลังการอบรมครูผู้สอนมีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกคน 3.2) ผลการเปรียบเทียบสภาพก่อนและหลังการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานในสภาพจริง พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงหลังทดลองใช้เพิ่มขึ้นจากก่อนทดลองใช้ทุกด้าน 3.3) ผลการประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน พบว่า ก่อนการทดลองใช้รูปแบบโดยรวมผลการประเมินอยู่ในระดับคุณภาพพอใช้ ส่วนผลการประเมินหลังการทดลองใช้รูปแบบโดยรวม ผลการประเมินอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก 3.4) ผลการประเมินประสิทธิผลรูปแบบ การนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐาน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 3.5) ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้สอน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 3.6) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนของครูผู้สอน พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ
4. ผลการประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนเทศบาลบ้านสุขสำราญ พบว่า องค์ประกอบของรูปแบบด้านวัตถุประสงค์ หลักการ กลไกการดำเนินการ วิธีดำเนินการ การประเมินผล และเงื่อนไขความสำเร็จ มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุดทุกประเด็น เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน
|
โพสต์โดย อิน : [24 ส.ค. 2568 (09:12 น.)] อ่าน [57387] ไอพี : 49.230.178.126
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,680 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,782 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,595 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,588 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,933 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,668 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 82,108 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 65,669 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,740 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,900 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 740 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 150,339 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,680 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 34,707 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,740 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 33,461 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,746 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,471 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,564 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,067 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|