การศึกษาวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยตามหลักการ แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับวิธีการเรียนการสอนแบบกลุ่มร่วมมือ รูปแบบ LT ที่มีองค์ประกอบสำคัญ คือ (1) การสร้างความรู้สึกพึ่งพากัน (Positive Interdependence) (2) การจัดให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียน (Faceto face Interaction) (3) การจัดให้นักเรียนมีความรับผิดชอบในส่วนบุคคลที่จะเรียนรู้ (Individual Accountability) (4) การให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะสังคม (Social Skills) และ (5) การจัดให้มีกระบวนการกลุ่ม (Group Processing) และมีชุดกิจกรรม เรื่องอักษรประสม เป็นสื่อในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และนำมาประยุกต์ร่วมกับการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดกลางทุมมาวาส ศิริอุปถัมภ์ ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 เป็นหน่วยการวิเคราะห์ มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้ (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่องอักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (3.2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทยของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่องอักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนการสอน โดยศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดกลางทุมมาวาส ศิริอุปถัมภ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ คือ (1) แบบวิเคราะห์เอกสาร (2) แบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus groups) (3) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (4) แบบบันทึกการประชุมแบบมีส่วนร่วม และ (5) แบบประเมินร่างรูปแบบการเรียนการสอน และเครื่องมือในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT จำนวน 9 แผนการจัดการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยการประเมินคุณภาพ เท่ากับ 4.50 (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.20-0.80 มีค่าอำนาจจำแนก 0.20 ขึ้นไป และมีค่าความเชื่อมั่นที่ 0.760 (3) แบบทดสอบวัดวัดทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test (Pair)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาวิเคราะห์สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย โดยใช้แบบประเมินค่าดัชนีความสอดคล้องแบบวิเคราะห์เอกสาร แบบบันทึกการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า มีความสอดคล้อง โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 1.00 ทุกรายการ และพบว่า ควรมีการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่องอักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
2. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ร่างรูปแบบการเรียนการสอนตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ได้รูปแบบการเรียนการสอน มีองค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ หลักการแนวคิดทฤษฎี หลักการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และการประเมินผล ซึ่งผล
การประเมินรูปแบบการเรียนการสอนตามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.55
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า มีประสิทธิภาพที่ 82.37/86.53 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ และค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.72 หรือคิดเป็นร้อยละ 73
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.2 ทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนมีค่าสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอน โดยศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง อักษรประสม ร่วมกับการสอนแบบกลุ่ม เทคนิค LT เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.47