ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?
ความรู้ทั่วไป 2 ก.พ. 2563 เปิดอ่าน : 15,867 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

❝ ผลการประเมินการทดสอบวัดนานาชาติ ด้านการวัดความรู้เด็กไทยล่าสุดมีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ❞
เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ?
Advertisement

จากข่าวทางหน้าสื่อสารมวลชน บีบีซีไทย ได้เผยแพร่ผลการประเมินการสอบวัดความรู้ปีล่าสุด 2018 โดยเผยแพร่ทางเวปไซท์บีบีซีไทยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2019 นี้เองว่า ไทยยังคงมีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ใน 3 วิชาหลักที่ได้ทำการทดสอบนานาชาติ นั่นคือ นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยในด้านการอ่าน 393 คะแนน (ค่าเฉลี่ย OECD 487 คะแนน) คณิตศาสตร์ 419 คะแนน (ค่าเฉลี่ย OECD 489 คะแนน) และวิทยาศาสตร์ 426 คะแนน (ค่าเฉลี่ย OECD 489 คะแนน)

ผลการประเมิน PISA รอบปี 2018 จาก 79 ประเทศทั่วโลก พบว่า ไทยยังคงได้คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในการสอบวัดความรู้ทั้ง 3 ด้าน คือ การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ขณะที่ 4 เมืองใหญ่ของจีน แซงหน้าขึ้นมาครองอันดับ 1 แทนสิงคโปร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) แนะควรพัฒนาความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนไทยอย่างเร่งด่วน หลังคะแนนลดลงต่อเนื่อง

โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (Programme for International Student Assessment หรือ PISA) ริเริ่มโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) เพื่อประเมินนักเรียนอายุ 15 ปี ในประเทศที่เข้าร่วม ทุก ๆ 3 ปี


เอเชีย ครองแชมป์ 4 อันดับแรก

การประเมินความสามารถด้านการอ่าน ปี 2018 พบว่า 4 อันดับแรกเป็นประเทศในกลุ่มเอเชีย ประกอบด้วย จีน สิงคโปร์ มาเก๊า และ ฮ่องกง

ผลการประเมิน PISA 2018 ในระดับนานาชาติ พบว่านักเรียนจาก 4 เมืองใหญ่ของจีน คือ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เจียงซู และเจ้อเจียง มีคะแนนทั้ง 3 ด้าน สูงกว่าทุกประเทศ/เขตเศรษฐกิจ ตามมาด้วย สิงคโปร์ และมาเก๊า

ส่วนประเทศ/เขตเศรษฐกิจที่ได้อันดับ 4 และ 5 ในด้านการอ่านคือ ฮ่องกง และเอสโตเนีย ด้านคณิตศาสตร์คือ ฮ่องกง และไต้หวัน ด้านวิทยาศาสตร์คือ เอสโตเนีย และญี่ปุ่น

 

ไทยมีค่าคะแนนการอ่านต่ำกว่าค่าเฉลี่ยนานาชาติ

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ระบุว่า ในการวัดระดับครั้งล่าสุดในปี 2018 พบว่า นักเรียนไทยมีคะแนนเฉลี่ยในด้านการอ่าน 393 คะแนน (ค่าเฉลี่ย OECD 487 คะแนน) คณิตศาสตร์ 419 คะแนน (ค่าเฉลี่ย OECD 489 คะแนน) และวิทยาศาสตร์ 426 คะแนน (ค่าเฉลี่ย OECD 489 คะแนน) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ PISA 2015 พบว่า ด้านการอ่านมีคะแนนลดลง 16 คะแนน ส่วนด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มีคะแนนเพิ่มขึ้น 3 คะแนน และ 4 คะแนน ตามลำดับ ซึ่งในการทดสอบทางสถิติถือว่าด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรอบการประเมินที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของคะแนนตั้งแต่การประเมินรอบแรกจนถึงปัจจุบัน สสวท. พบว่า ผลการประเมินด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของไทยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ผลการประเมินด้านการอ่านมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และความฉลาดรู้ด้านการอ่านมีความสัมพันธ์กับความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ระบบการศึกษาไทยจึงต้องยกระดับความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ในการประเมิน PISA 2018 เน้นการประเมินด้านการอ่าน มีนักเรียนเข้าร่วมการประเมินประมาณ 600,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของนักเรียนอายุ 15 ปี จำนวนประมาณ 32 ล้านคนทั่วโลก จาก 79 ประเทศ/
เขตเศรษฐกิจ สสวท. ทำหน้าที่เป็น
ศูนย์แห่งชาติ (National Center) ได้ดำเนินการจัดสอบเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา มีนักเรียนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 8,633 คน จาก 290 โรงเรียน ในทุกสังกัดการศึกษาเข้าร่วมการประเมินในรอบนี้ โดยนักเรียนได้ทำแบบทดสอบและแบบสอบถามทางคอมพิวเตอร์ผ่านแฟลชไดรฟ์ข้อสอบ นอกจากนี้ยังมีการเก็บข้อมูลจากผู้บริหารโรงเรียนผ่านทางแบบสอบถามออนไลน์ด้วย

 

ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตเผยสติปัญญาเด็กไทยวัยเรียนลดลงเกือบ 3 จุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

มีข้อสังเกตจากข้อมูลด้านการวัดระดับสติปัญญาเด็กไทย เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 11 มกราคม 2562 ที่่ผ่านมา ซึ่งก็คือเมื่อต้นปี 2562 นี้เอง จากการเปิดเผยสถานการณ์ล่าสุด โดยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยในสำนักข่าวเวิร์คพอยท์นิวส์ ว่า ผลสำรวจระดับสติปัญญาเด็กไทยในปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตได้สำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญาเด็กไทยวัยเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ระดับสติปัญญาเฉลี่ยเท่ากับ 94.73 ต่ำลงเกือบ 3 จุด เมื่อเทียบกับการสำรวจในปี พ.ศ. 2559 ที่ระดับคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 98.2

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่อง คงพอจะกล่าวได้ว่า มีความเกี่ยวโยงกันบ้างพอสมควร ทั้งนี้แม้ผลการสำรวจจะอยู่ต่างกรรมต่างวาระ ต่างช่วงวัย แต่ผลการพัฒนาทรัพยากรอนาคตของชาติก็สะท้อนความเป็นจริงของข้อมูลคุณภาพประชากรไทยได้ระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายต่างก็ได้พยายามตระหนักเพื่อหาทางแก้ปัญหา การเฝ้าระวังสถานการณ์ทางระดับสติปัญญาของเด็กไทยที่กรมสุขภาพจิตดำเนินการเฝ้าระวังต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนให้เห็นความสำคัญของปัญหาและสร้างความตระหนักต่อสังคม คงจะเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญต่อผู้เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาบุคลากรในชาติอย่างมีทิศทางชัดเจน แม้จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะถือเป็นปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนในหลายระดับตั้งแต่ ครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม เป็นต้น


กล่าวโดยสรุป

ผลการประเมินการศึกษา PISA 2018 ซึ่งได้เน้นไปที่การประเมินด้านการอ่าน ในกลุ่มนักเรียนวัย 15 ปี ซึ่งเป็นคนละกลุ่มวัยที่ได้ทำการสำรวจ แต่ก็สามารถสะท้อนทิศทางการศึกษาของเด็กไทยได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม การวัดระดับสติปัญญาเด็กไทย ที่กรมสุขภาพจิตได้เฝ้าระวังต่อเนื่องตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมา เพื่อเฝ้าติดตามและรายงานผลให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบสถานการณ์ เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาเชิงระบบ ที่เกิดขึ้นกับคุณภาพชีวิตของประชากรไทยวัยเรียน ได้สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการพัฒนาระดับสติปัญญาเด็กไทยไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ดีนัก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายถึงว่า การมีระดับสติปัญญาที่สูง จะบ่งชี้ว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จ เพราะยังมีทักษะด้านอื่น ไม่ว่าจะเป็นทักษะการพัฒนาการด้านอารมณ์ พฤติกรรม ที่สามารถฝึกฝนให้เกิดขึ้นได้ ผ่านการเฝ้าระวังทางพัฒนาการอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย เพื่อการพัฒนาที่ดีของเด็กไทย โดยท่านที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตทั่วประเทศ


แหล่งข้อมูล

https://www.bbc.com/thai/international-50642536

https://workpointnews.com/2019/01/11/12 

 

ที่มา กรมสุขภาพจิต 4 ธันวาคม 2562

 


TAGS ที่เกี่ยวข้อง >> เด็กไทยมีไอคิวต่ำลงจริงหรือ? << คลิกอ่านเพิ่มเติม

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ผัก ผลไม้… กับมะเร็ง

ผัก ผลไม้… กับมะเร็ง
เปิดอ่าน 2,900 ครั้ง
การเลือกโต๊ะที่เป็นมงคล

การเลือกโต๊ะที่เป็นมงคล
เปิดอ่าน 11,325 ครั้ง
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต
เปิดอ่าน 13,124 ครั้ง
เทคนิคการแก้ปัญหา "รูขุมขนกว้าง"

เทคนิคการแก้ปัญหา "รูขุมขนกว้าง"
เปิดอ่าน 14,313 ครั้ง
ยาสีฟันทำมาจากอะไร?

ยาสีฟันทำมาจากอะไร?
เปิดอ่าน 30,372 ครั้ง
"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี

"ผมร่วง" แก้ไขยังไงดี
เปิดอ่าน 13,763 ครั้ง
ต้นกำเนิดของปลา

ต้นกำเนิดของปลา
เปิดอ่าน 18,741 ครั้ง
ประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มเกลือแร่

ประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มเกลือแร่
เปิดอ่าน 16,172 ครั้ง
6 คำคมน่าคิด ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

6 คำคมน่าคิด ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
เปิดอ่าน 16,391 ครั้ง
6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009

6 เคล็ดลับเก็บเงินปี 2009
เปิดอ่าน 11,520 ครั้ง
"มะละกอ" มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด?

"มะละกอ" มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด?
เปิดอ่าน 36,809 ครั้ง
5 วิธีดื่มเบียร์ไม่ให้หนุ่ม ๆ อ้วนจนพุงปลิ้น

5 วิธีดื่มเบียร์ไม่ให้หนุ่ม ๆ อ้วนจนพุงปลิ้น
เปิดอ่าน 29,924 ครั้ง
เจ้านายจู้จี้ ขี้บ่น ทำยังไงดี

เจ้านายจู้จี้ ขี้บ่น ทำยังไงดี
เปิดอ่าน 13,814 ครั้ง
ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ

ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ
เปิดอ่าน 31,405 ครั้ง
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์

ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์
เปิดอ่าน 13,744 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

13-17 พ.ค.2554 ครม.ไฟเขียวให้เป็นวันหยุดยาว 5 วัน
13-17 พ.ค.2554 ครม.ไฟเขียวให้เป็นวันหยุดยาว 5 วัน
เปิดอ่าน 21,294 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
อนามัยโลกเตือนไม่ควรดื่มเครื่องดื่ม "ร้อนเกินไป"
อนามัยโลกเตือนไม่ควรดื่มเครื่องดื่ม "ร้อนเกินไป"
เปิดอ่าน 15,203 ☕ คลิกอ่านเลย

5 อภิมหาม้าเหล็ก ทุบสถิติ วิ่งเร็วที่สุดในโลก
5 อภิมหาม้าเหล็ก ทุบสถิติ วิ่งเร็วที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 9,961 ☕ คลิกอ่านเลย

โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว
โซเชียลเน็ตเวิร์กทำครอบครัวร้าว
เปิดอ่าน 14,863 ☕ คลิกอ่านเลย

เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดโลกเรียนรู้เจ้าหนูจอมซน
เปิดอ่าน 7,517 ☕ คลิกอ่านเลย

งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง
งานแฟร์ เพื่อนพึ่ง(ภา) 2552 ช็อปของขวัญปีใหม่สไตล์วัง
เปิดอ่าน 9,218 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำงานเกินกำลัง...ทำให้ป่วย
ทำงานเกินกำลัง...ทำให้ป่วย
เปิดอ่าน 8,599 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ
เกมลับสมองกับการศึกษาและความสำเร็จอื่น ๆ
เปิดอ่าน 11,577 ครั้ง

Paperman การ์ตูนสั้น ชิงรางวัลออสการ์ การ์ตูนสุดโรแมนติกจาก ดิสนี่ย์
Paperman การ์ตูนสั้น ชิงรางวัลออสการ์ การ์ตูนสุดโรแมนติกจาก ดิสนี่ย์
เปิดอ่าน 10,567 ครั้ง

ฮือฮาอ้าง"กูเกิ้ลเอิร์ธ"จับภาพ "เนสซี่"ทะเลสาปล็อคเนสได้ ใช้โปรแกรมภาพถ่ายดาวเทียม 3มิติ
ฮือฮาอ้าง"กูเกิ้ลเอิร์ธ"จับภาพ "เนสซี่"ทะเลสาปล็อคเนสได้ ใช้โปรแกรมภาพถ่ายดาวเทียม 3มิติ
เปิดอ่าน 12,775 ครั้ง

"พี่เป้า-สายัณห์ สัญญา" สร้างปาฏิหาริย์ช่วยหญิงเป็นมะเร็งฟื้นคืนชีพ
"พี่เป้า-สายัณห์ สัญญา" สร้างปาฏิหาริย์ช่วยหญิงเป็นมะเร็งฟื้นคืนชีพ
เปิดอ่าน 12,001 ครั้ง

"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
เปิดอ่าน 1,794 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ