การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 box diagram ร่วมกับเทคนิค KWDLของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
2. เพื่อประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 box diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL
เป้าหมาย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2568 โรงเรียนวัดหินลาด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 จำนวน 18 คน
เป้าหมายเชิงปริมาณ
1. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังการเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 box diagram ร่วมกับเทคนิค KWDLของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียน
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนในระดับมากขึ้นไป
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 box diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพิ่มขึ้น
2. นักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข และมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์
3. นักเรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ในชีวิตประจำวันได้
ผลการดําเนินงาน / ประโยชน์ที่ได้รับ
3.1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์
1) คะแนนหลังการเรียนของนักเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับ 0.05 และมีพัฒนาการทั้งด้านความเข้าใจเนื้อหาและด้านกระบวนการคิด ผู้เรียนสามารถแยกข้อมูลในโจทย์ได้เป็นระบบมากขึ้น สามารถระบุสิ่งที่โจทย์ให้มา สิ่งที่ต้องการหา และความสัมพันธ์ของข้อมูลต่าง ๆ ได้ถูกต้อง ผ่านการใช้แบบจำลอง 3 Box Diagram ซึ่งช่วยลดความสับสนและลดภาระด้านการจำ ทำให้ผู้เรียนสามารถมองเห็นโครงสร้างของโจทย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ การใช้เทคนิค KWDL ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนวางแผนการคิดอย่างเป็นขั้นตอน ตรวจสอบความเข้าใจของตนเองระหว่างการทำโจทย์ และสามารถสรุปสิ่งที่เรียนรู้ พร้อมอธิบายเหตุผลของคำตอบได้ดีขึ้น
2) ผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุดในทั้งสามด้าน ได้แก่ ด้านความเข้าใจบทเรียน ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และด้านความสนใจต่อวิชาคณิตศาสตร์ ผู้เรียนส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า การใช้ 3 Box Diagram ช่วยให้โจทย์ยาก ๆ เข้าใจง่ายขึ้น ทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและจัดลำดับการคิดได้อย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันเทคนิค KWDL ช่วยให้ผู้เรียนได้สำรวจความรู้พื้นฐานของตนเอง ตั้งคำถามที่ชัดเจนเกี่ยวกับโจทย์ วางแผนการแก้ปัญหา และสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้ในตอนท้าย ส่งผลให้ผู้เรียนรู้สึกว่าตนเอง คิดเป็นมากขึ้น และมีความมั่นใจในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์มากขึ้น
3.2 ผลสัมฤทธิ์ของงาน
ผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินการพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผลการศึกษาวิเคราะห์ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนเรื่อง การพัฒนาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 18 คน โดยแบบทดสอบคะแนนเต็ม 20 คะแนน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 6.33 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.68 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนมีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 16.28 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.72 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 18 คน มีค่า t-test เท่ากับ 25.389 ค่า sig. เท่ากับ .00 แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด (µ = 4.83, σ = 0.29) โดยเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (µ = 4.91, σ = 0.21) รองลงมา ได้แก่ ความเข้าใจบทเรียน (µ = 4.81, σ = 0.26) และความสนใจและทัศนคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ (µ = 4.76, σ = 0.39)
3.3 ประโยชน์ที่ได้รับ
ประโยชน์ที่ได้รับต่อนักเรียน
1. นักเรียนมีทักษะทางคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้นและทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น
2. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการเรียนคณิตศาสตร์
3. นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อการเรียน มีความตั้งใจ ปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างมีความสุข กล้าแสดงออก และมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ที่ได้รับต่อครูผู้สอน
1. ครูมีสื่อนวัตกรรม/วิธีการ/กิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย
2. ครูมีความมั่นใจและความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน
3. ครูได้รับการยอมรับและศรัทธาในวิธีการจัดการเรียนการสอนจากนักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อนครู และชุมชน
ประโยชน์ที่ได้รับต่อโรงเรียน
1. ระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของโรงเรียนเฉลี่ยสูงขึ้น
2. โรงเรียนได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากผู้ปกครองและชุมชนในการจัดการเรียนการสอนเพิ่มมากขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับต่อชุมชน
1. ชุมชนมีความเชื่อมั่นในการจัดระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนเพิ่มขึ้น
2. ชุมชนมีความภาคภูมิใจ ศรัทธาโรงเรียนและเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาโรงเรียนเพิ่มขึ้น
4. ปัจจัยความสำเร็จ
4.1 ผู้บริหารสถานศึกษาอำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา ส่งเสริมและการสนับสนุน การจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
4.2 นักเรียนมีความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นในการทำงาน
4.3 นักเรียนให้ความร่วมมือและมีความพร้อมในการร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี
4.4 ครูผู้สอนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ให้ความสนใจต่อความต้องการเรียนรู้และส่งเสริม
ผู้เรียนสู่การเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จ
4.5 ผู้ปกครองให้ความร่วมมือ ส่งเสริม สนับสนุน และเอาใจบุตรหลานที่บ้านเป็นอย่างดี
5. บทเรียนที่ได้รับ
ในการจัดกิจกรรมการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอนต้องมีแผนการจัดกิจกรรมหรือแบบฝึกหัดที่เรียงลำดับจากง่ายไปยาก มีการแบ่งเนื้อหาตามกลุ่มความสามารถของนักเรียน กลุ่มอ่อน กลุ่มปานกลาง และกลุ่มเก่ง โดยเนื้อหาสามารถปรับใช้ได้กับทุกกลุ่ม และควรมีเทคนิควิธีการสร้างบรรยากาศให้เกิดความสนุกสนาน ส่งผลโดยตรงให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ และมีทัศนคติที่ดี นักเรียนมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน และมีข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรม ดังนี้
5.1 ด้านเนื้อหาในแบบฝึก/กิจกรรม ควรมีเนื้อหาสอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน เนื้อหาไม่ยากเกินกว่าระดับชั้นของนักเรียน สามารถนำเนื้อหาไปใช้ได้จริง
5.2 ด้านช่วงเวลาการจัดกิจกรรม ไม่พอต่อการจัดการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาร้อยละเกี่ยวกับกำไร ขาดทุน และราคาขายแบบหลายขั้นตอนโดยใช้ 3 Box Diagram ร่วมกับเทคนิค KWDL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ควรใช้ช่วงเวลาเพิ่มจากคาบเรียน หรือกระชับเวลาให้มากขึ้น
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ตั้งกระทู้คำถามใหม่
กลับหน้าที่แล้ว
