ชื่อวิจัย การพัฒนากลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายใน เพื่อเสริมสร้างการจัด
การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต
ชื่อผู้วิจัย นางอาริญา เสนา ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ รองผู้อำนวยการ
ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาล
นครภูเก็ต
ปีที่วิจัย 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการนิเทศภายในโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต 2) เพื่อสร้าง และพัฒนากลยุทธ์การนิเทศภายในเพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต 3) เพื่อศึกษาผลการใช้กลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายในเพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต 4) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ และความมีประโยชน์ของกลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายใน เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต
ปรากฏผลการพัฒนาดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการนิเทศภายในโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต อยู่ในระดับมากที่สุด และประเด็นที่ครูในโรงเรียนต้องการให้มีการดำเนินการให้พัฒนาการดำเนินงาน ตามลำดับคือ 1. การนิเทศการศึกษา 2. การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา สื่อนวัตกรรม และเทคโนโลยี 3. การพัฒนากระบวนการเรียนรู้
2. สร้าง และพัฒนากลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายใน เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ 11 กลวิธี ดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 วางแผนเชิงระบบเพื่อพัฒนาระบบการนิเทศภายใน
กลวิธีที่ 1.1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการนิเทศภายในโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี
กลวิธีที่ 1.2 จัดทำแผนกลยุทธ์การนิเทศภายในโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดีร่วมกันระหว่างครูผู้ปฏิบัติการ ผู้บริหารสถานศึกษา และนำผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมในการดำเนินการ
กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning)
กลวิธีที่ 2.1 ส่งเสริมให้ครูมีการวิเคราะห์หลักสูตร และออกแบบหน่วยการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning)
กลวิธีที่ 2.2 ส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning)ด้วยวิธีการที่หลากหลาย
กลวิธีที่ 2.3 ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนรู้สอดคล้องกับความสนใจ และความถนัดของผู้เรียนฝึกทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการแก้ปัญหาการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงแก่ผู้เรียน
กลวิธีที่ 2.4 ส่งเสริมการจัดบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning)
กลยุทธ์ที่ 3 นิเทศภายในโดยใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครู (PLC)
กลวิธีที่ 3.1 พัฒนาศักยภาพผู้บริหาร และครูในการนิเทศภายในโดยนำ รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครู (PLC) อย่างทั่วถึงรอบด้านด้วยวิธีการที่หลากหลาย
กลวิธีที่ 3.2 ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐาน และความเป็นเลิศโดยใช้การนิเทศแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลายช่องทาง (Coaching Team) โดยใช้เทคนิค การนิเทศแบบต่าง ๆ เช่น Coaching, Mentoring, Supporting, กัลยาณมิตรนิเทศ พัฒนาระบบการนิเทศงานวิชาการ และการเรียนการสอนภายในสถานศึกษา
กลวิธีที่ 3.3 นิเทศการสอนแบบกัลยาณมิตรแก่ครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทุกชั้นเรียน
กลวิธีที่ 3.4 แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดระบบการนิเทศการศึกษาภายในสถานศึกษา และระหว่างสถานศึกษาหรือเครือข่ายการนิเทศภายในของสถานศึกษาในชุมชนโดยนำรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครู (PLC) มาใช้ในการพัฒนาหลักสูตรการสอนและการนิเทศ
กลวิธีที่ 3.5 ผู้บริหารสถานศึกษาประสานงาน อำนวยการ เอื้ออำนวย ในการจัดการเรียนการสอนของครูเพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้นิเทศ
3. จากการนำกลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายในเพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต ไปใช้พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถดูได้จากผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 39.28 และปีการศึกษา 2567 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 41.95
4. ผลประเมินความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ ความมีประโยชน์ และการประเมินความสอดคล้อง ความเหมาะสม ของกลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายใน เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู ของครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่ามีความสอดคล้อง ในระดับมากที่สุด ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการประเมิน และปรับปรุงกลยุทธ์ฯ ปรากฏผลการประเมินความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ และความมีประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (μ=4.94, =0.07) จำแนกเป็นรายกลยุทธ์ดังนี้กลยุทธ์ที่ 1 วางแผนเชิงระบบเพื่อพัฒนาระบบการนิเทศภายในมีคะแนนเฉลี่ยดังนี้ μ=4.95 =0.22 อยู่ในระดับมากที่สุด กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) มีคะแนนเฉลี่ยดังนี้ μ =4.94 =0.20 อยู่ในระดับมากที่สุด กลยุทธ์ที่ 3 นิเทศภายในโดยใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครู (PLC) มีคะแนนเฉลี่ยดังนี้ μ=4.94 =0.07 อยู่ในระดับมากที่สุดจากที่กล่าวมาข้างต้น การพัฒนากลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายใน เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต เป็นประเด็นที่ครูในโรงเรียนต้องการให้มีการดำเนินการให้พัฒนาการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด และสามารถพัฒนากลยุทธ์ SMART- PLC Model การนิเทศภายใน เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครู สำหรับครูโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี จังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ 11 กลวิธี ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น จากผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 39.28 และปีการศึกษา 2567 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 41.95 ทั้งนี้ผลการประเมินความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ ความมีประโยชน์ และการประเมินความสอดคล้อง ความเหมาะสม ของกลยุทธ์ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยกลยุทธ์ที่ 1 วางแผนเชิงระบบเพื่อพัฒนาระบบการนิเทศภายใน กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนากระบวนการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) และกลยุทธ์ที่ 3 นิเทศภายในโดยใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพสำหรับครู (PLC) อยู่ในระดับมากที่สุดทั้ง 3 กลยุทธ์