ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรม การเรียนรู้ราย

บทคัดย่อ

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 วิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้เรียนและผู้รายงานพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ที่เรียนรายวิชาภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรมต่ำ ไม่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อาจเนื่องจากครูไม่มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดี ไม่มีสื่อการเรียนการสอน ไม่มีเอกสารและเนื้อหาที่เรียนเป็นที่น่าสนใจ ทำให้ผู้เรียนไม่สนใจที่จะศึกษา

การรายงานครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนจากการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประชากรที่ใช้ในการรายงาน คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD 2) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3 ) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.80 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีประสิทธิผล

ผลการรายงานปรากฏ ดังนี้

1. ประสิทธิภาพของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี เท่ากับ 85.94/ 84.90 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6787 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้ เพราะมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.87

3. คะแนนประเมินผลหลังการพัฒนารูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยม

ศึกษาปีที่ 3 มีความแตกต่างกับคะแนนประเมินผลก่อนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นั่นคือ การจัดการเรียนการสอน รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีการนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย มาประกอบ

การจัดการเรียนรู้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนรายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย ท23101 เรื่อง การอ่านวิเคราะห์วรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52

โพสต์โดย อารีลักษณ์ : [26 มี.ค. 2560 เวลา 22:33 น.]
อ่าน [3657] ไอพี : 10.10.10.3, 119.42.1
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,878 ครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการกับการปรับโครงสร้าง
กระทรวงศึกษาธิการกับการปรับโครงสร้าง

เปิดอ่าน 17,620 ครั้ง
เกมส์วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN
เกมส์วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN

เปิดอ่าน 44,795 ครั้ง
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)

เปิดอ่าน 17,601 ครั้ง
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป
อนาคต 10 อย่างที่กำลังจะหายไป

เปิดอ่าน 12,633 ครั้ง
3 จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยต้องทำประกันเดินทางก่อนไปเที่ยว
3 จุดหมายยอดฮิตที่คนไทยต้องทำประกันเดินทางก่อนไปเที่ยว

เปิดอ่าน 17,009 ครั้ง
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
หลัก4อ. ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

เปิดอ่าน 20,800 ครั้ง
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ประวัติการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 21,038 ครั้ง
รูปแบบวิธีการสอน: การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ปี 2562
รูปแบบวิธีการสอน: การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ปี 2562

เปิดอ่าน 21,736 ครั้ง
แก่นขนุน
แก่นขนุน

เปิดอ่าน 31,490 ครั้ง
โรคพยาธิตัวจี๊ด
โรคพยาธิตัวจี๊ด

เปิดอ่าน 15,381 ครั้ง
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล

เปิดอ่าน 23,348 ครั้ง
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย
"กำจัดจุดอ่อน" ผลงานทางวิชาการ สาขาภาษาไทย

เปิดอ่าน 10,961 ครั้ง
จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?
จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?

เปิดอ่าน 14,924 ครั้ง
จำนวนเต็ม (Integer) คืออะไร
จำนวนเต็ม (Integer) คืออะไร

เปิดอ่าน 14,104 ครั้ง
ความพอเพียงของสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา
ความพอเพียงของสื่อคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียเพื่อการศึกษา

เปิดอ่าน 9,963 ครั้ง
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
รู้เรา รู้ใคร... จากนิสัยท่องเที่ยว
เปิดอ่าน 37,774 ครั้ง
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
เปิดอ่าน 16,027 ครั้ง
มะขามป้อม
มะขามป้อม
เปิดอ่าน 35,269 ครั้ง
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด
ต้นสัตบรรณ - ต้นตีนเป็ด
เปิดอ่าน 16,155 ครั้ง
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology
ผลวิจัยการใช้แท็บเล็ตตามกระแส BYOT: Bring Your Own Technology

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ