|
|
รายงานการวิจัยการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎี
คอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
ผู้วิจัย นางบงกช วิลาศรี ปีที่วิจัย ๒๕๕๘
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์วิชาภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้าง กระบวนการคิดวิเคราะห์วิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ กับรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ ๓) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนตามรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่ เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์วิชาภาษาไทย สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ กับรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ ขั้นตอนในการพัฒนา มี ๕ ขั้น ได้แก่ ๑) การศึกษารูปแบบการเรียนรู้ ๒) การออกแบบรูปแบบการเรียนรู้ ๓) การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ ๔) การทดลองใช้เพื่อหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ ๕) การประเมินผลรูปแบบการเรียนรู้กลุ่ม ตัวอย่าง มี ๒ กลุ่ม ได้แก่ ๑) กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๑๒ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง แบ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรูปแบบการเรียนรู้ จำนวน ๖คน ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาและการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน ๓ คน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคและ วิธีการ จำนวน ๓ คน ๒) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านลานวิทยาคม จำนวน ๒ กลุ่ม กลุ่ม ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียตามแนวคิดทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์วิชา ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๒๗ คน และกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน ๒๗ คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ ๑) ร่างรูปแบบการเรียนรู้ ๒) แบบสอบถามด้านความเหมาะสมของรูปแบบที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๑ แบบสอบถามด้าน เนื้อหาและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๓ และแบบสอบถามด้านเทคนิคและวิธีการที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๙๐ ๓) แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ ๔) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๙๒ และ ๕) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ที่มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๘๖ การเก็บรวบรวมข้อมูลได้จากการระดมความคิดเห็นของ
ผู้เชี่ยวชาญ การสอบถามความคิดเห็น การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนและการวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การพรรณนาวิเคราะห์ และใช้สถิติเชิงพรรณนาหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าความแตกต่าง t-test โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป วิเคราะห์ประเด็นเชิงเนื้อหาในข้อ ค้นพบ นำเสนอประกอบความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
๑. การออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ ได้รูปแบบที่มีองค์ประกอบ ๔ องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบด้านทฤษฎีที่ เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทฤษฎีการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดีย แนวทฤษฎี คอนสตรัคติวิสต์และทฤษฎีการคิดวิเคราะห์ องค์ประกอบด้าน หลักการ ได้แก่ ด้านครูผู้สอน ด้านผู้เรียน ด้านเครื่องมือและด้านการประเมินผล องค์ประกอบด้านกิจกรรมการเรียนรู้ มี ๖ ขั้นตอนได้แก่ ขั้นเตรียมความพร้อม ขั้นกระตุ้นความคิด ขั้นวางแผนการเรียนรู้ ขั้นเรียนรู้ผ่านสื่อ ขั้น สรุปความคิดและขั้นประเมินผลการเรียนรู้ องค์ประกอบด้านการ ประเมินผล ได้แก่ ประเมินผลการเรียนรู้ และประเมินพฤติกรรม ของผู้เรียน ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อ รูปแบบการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด (X = ๔.๙๒, S.D. = ๐.๑๔)
๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนกลุ่มที่เรียนด้วย รูปแบบการเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียสูงกว่าผู้เรียนกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
๓. ทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบ การเรียนรู้ผ่านสื่อมัลติมีเดียสูงกว่าผู้เรียนกลุ่มที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕
|
โพสต์โดย ครูแมว : [6 ม.ค. 2561 เวลา 13:06 น.] อ่าน [4603] ไอพี : 223.206.234.121
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 63,965 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,452 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,511 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,125 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,411 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,072 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,034 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,566 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,690 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,213 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,123 ครั้ง
| เปิดอ่าน 118,589 ครั้ง
| เปิดอ่าน 33,645 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,043 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,003 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 17,953 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,996 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,492 ครั้ง
| เปิดอ่าน 87,654 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,903 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|