ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ส าหรับนักเรียนชั้นป

ชื่อเรื่อง : รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนกเร ั ียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

โรงเรียนวัดบ้านส้อง

ชื่อผู้วิจัย : อําภัย จรเสมอ

หน่วยงาน : โรงเรียนวัดบ้านส้อง ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานีเขต 3

ปีที่ทําการวิจัย : ปี 2558

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบ้านส้อง

ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย

เรื่อง การอ่านจับใจความ ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้

แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 5 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึก

ทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียน

วัดบ้านส้อง จํานวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบ้านส้อง แบบทดสอบ

วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จํานวน 30 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้

ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษา พบว่า

1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบ้านส้อง ที่ผู้รายงานพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 88.08/81.42

ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80

2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ

เรื่อง การอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

โรงเรียนวัดบ้านส้อง อยู่ในระดับมาก ( X = 4.45) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.58

โพสต์โดย ครูโต๋ : [17 พ.ค. 2561 เวลา 11:27 น.]
อ่าน [3531] ไอพี : 202.143.169.68
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,534 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง

เปิดอ่าน 13,991 ครั้ง
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
วิกฤติการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 41,356 ครั้ง
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน
4 พฤติกรรมเสี่ยง ทำสิ่งเหล่านี้ในอนาคตปวดหลังเรื้อรังแน่นอน

เปิดอ่าน 37,461 ครั้ง
มุมกล้องกับช่องว่าง
มุมกล้องกับช่องว่าง

เปิดอ่าน 20,403 ครั้ง
ประเพณีแห่เทียนพรรษา ปี 52 จังหวัดอุบลราชธานี
ประเพณีแห่เทียนพรรษา ปี 52 จังหวัดอุบลราชธานี

เปิดอ่าน 69,902 ครั้ง
ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดน์
ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดน์

เปิดอ่าน 14,195 ครั้ง
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย

เปิดอ่าน 20,115 ครั้ง
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้
10 ธุรกิจลงทุนจิ๊บๆ แค่ใช้ทักษะที่มีในตัวก็ทำเงินได้

เปิดอ่าน 10,881 ครั้ง
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

เปิดอ่าน 34,035 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 13,922 ครั้ง
 วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 21,976 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 27,387 ครั้ง
เอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2559
เอกสารแนวทางการดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2559

เปิดอ่าน 83,617 ครั้ง
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 25,572 ครั้ง
ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)
ไม้ดอกไม้ประดับ (สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30)

เปิดอ่าน 7,826 ครั้ง
สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของสัตว์
สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของสัตว์
เปิดอ่าน 23,650 ครั้ง
ตัวหนังสือไทย
ตัวหนังสือไทย
เปิดอ่าน 23,691 ครั้ง
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
ระวัง 5 สารพิษใกล้ตัว
เปิดอ่าน 85,292 ครั้ง
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
เปิดอ่าน 81,403 ครั้ง
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล
รูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้ผล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ