ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความตระหนักรู้ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความตระหนักรู้ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์

ผู้วิจัย นายสมพงษ์ พรหมมณี

ปีที่วิจัย 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน หลักการและทฤษฎีการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความตระหนักรู้ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความตระหนักรู้ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความตระหนักรู้ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความตระหนักรู้ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/7 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ จำนวน 34 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบความตระหนักรู้ในตนเองเรื่องเพศศึกษษ และแบบวัดความคิดเห็นของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาตามแนวคิดของแครทวอล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้พลศึกษาที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ สื่อการสอน ผู้สอน ผู้เรียน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการวัดประเมินผล มีขั้นตอน 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นการจัดการเรียนรู้ และขั้นสรุป

 

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา มีดังนี้

2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องเพศศึกษา หลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.2 ความตระหนักรู้ในตนเองของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

2.3 นักเรียนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพศศึกษา ตามแนวคิดของแครทวอล โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย เบื้องหลังแห่งความสำเร็จ : [2 ก.ย. 2561 เวลา 02:46 น.]
อ่าน [3631] ไอพี : 118.173.253.178
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 5,991 ครั้ง
อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต
อุตสาหกรรมที่จะพลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมแห่งโลกอนาคต

เปิดอ่าน 11,028 ครั้ง
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป

เปิดอ่าน 27,109 ครั้ง
พระนามพระเป็นเจ้าทางศาสนาพราหมณ์
พระนามพระเป็นเจ้าทางศาสนาพราหมณ์

เปิดอ่าน 10,813 ครั้ง
ความลับของชาเขียว
ความลับของชาเขียว

เปิดอ่าน 26,334 ครั้ง
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..
"ช้างน้าว" ยิ่ง "เหลือง"พรึ่บ!! เท่าไหร่ ยิ่งรวย..

เปิดอ่าน 21,849 ครั้ง
ลายมือเช่นไร คือคนที่จะได้ดีบั้นปลายของชีวิต
ลายมือเช่นไร คือคนที่จะได้ดีบั้นปลายของชีวิต

เปิดอ่าน 8,222 ครั้ง
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009
สตรีผู้ทรงอิทธิพลปี 2009

เปิดอ่าน 11,023 ครั้ง
เตือนภัย กลโกงใหม่พ่อค้ากุ้ง แอบเนียนสลับถุงให้ลูกค้า
เตือนภัย กลโกงใหม่พ่อค้ากุ้ง แอบเนียนสลับถุงให้ลูกค้า

เปิดอ่าน 16,365 ครั้ง
Multimidia คืออะไร?
Multimidia คืออะไร?

เปิดอ่าน 15,062 ครั้ง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง

เปิดอ่าน 20,936 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 12,278 ครั้ง
กินแบบไทย ไล่มะเร็ง
กินแบบไทย ไล่มะเร็ง

เปิดอ่าน 41,584 ครั้ง
ทำไม "บาแก็ตต์" หรือ "ขนมปังฝรั่งเศส" จึงทำเป็นแท่งยาว?
ทำไม "บาแก็ตต์" หรือ "ขนมปังฝรั่งเศส" จึงทำเป็นแท่งยาว?

เปิดอ่าน 16,639 ครั้ง
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?
TEPE Online มีอะไรดีๆ เยอนะ รู้จักกันหรือยัง?

เปิดอ่าน 12,918 ครั้ง
ใบมอบฉันทะเป็นผู้ดำเนินการยื่นแบบคำร้องขอรับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ปร
ใบมอบฉันทะเป็นผู้ดำเนินการยื่นแบบคำร้องขอรับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ปร

เปิดอ่าน 11,062 ครั้ง
ปลาชะลอสมองเสื่อม
ปลาชะลอสมองเสื่อม
เปิดอ่าน 10,350 ครั้ง
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
เปิดอ่าน 20,973 ครั้ง
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
ฮือฮา! นักวิทยาศาสตร์ค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง-ทฤษฎี 100 ปีที่แล้วของไอน์สไตน์!
เปิดอ่าน 20,422 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
เปิดอ่าน 8,147 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (จบ)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ