ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับ นักเร

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้วิจัย : นางสาวณัฐนันท์ เนตรทิพย์

สถานศึกษา : โรงเรียนสามัคคีวิทยาคาร เทศบาลเมืองน่าน (บ้านพระเนตร)

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสามัคคีวิทยาคาร เทศบาลเมืองน่าน (บ้านพระเนตร) อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แบบประเมินความสามารถการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) และวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1.ภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่าครูผู้สอนยังคงเน้นการบรรยายเนื้อหาเป็นหลัก ไม่มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้ เทคนิควิธีการสอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอนไม่น่าสนใจ ครูผู้สอนใช้สื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนน้อย สื่อ อุปกรณ์ไม่เพียงพอ เก่าและขาดคุณภาพ ครูขาดการบูรณาการการเรียนการสอนโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน นักเรียนไม่ตั้งใจเรียน ขาดทักษะและความสามารถด้านการแก้ปัญหา ไม่กระตือรือร้นในการเรียนรู้

2.รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า “STARTS Model” มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และปัจจัยที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการจัดการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1) การสำรวจและระบุปัญหา (S: Survey and Identify problem) 2) การรวบรวมข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี (T: Technology for gather information) 3) การกำหนดและออกแบบโครงงาน (A: Assign and design) 4) การลงมือปฏิบัติและปรับปรุงโครงงาน (R: Review and improve) 5) การนำเสนอถ่ายทอดความรู้ (T: Transmission approach) 6) สรุปและประเมินผลโครงงาน (S: Summary and evaluation) ตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีความสอดคล้อง (IOC = 1.00) และรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐานมีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.07 /82.24 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า (1) ผลการเปรียบเทียบความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน (2) ผลการเปรียบเทียบความสามารถด้านการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้โครงงานเป็นฐานเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย=4.52 , ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน= 0.50) ส่วนความพึงพอใจรายด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุดคือด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ค่าเฉลี่ย =4.54 ,ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.51)

โพสต์โดย JJ : [22 ส.ค. 2563 เวลา 15:19 น.]
อ่าน [3351] ไอพี : 27.55.75.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 2,234 ครั้ง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง

เปิดอ่าน 10,948 ครั้ง
โรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์

เปิดอ่าน 9,914 ครั้ง
ไข่ดิบมีประโยชน์จริงหรือ
ไข่ดิบมีประโยชน์จริงหรือ

เปิดอ่าน 19,333 ครั้ง
"ปลูกผักในต้นกล้วย"ความชุ่มฉ่ำเหลือเฟือ ไม่ต้องรดน้ำ ผักรสหวาน แถมปลอดภัย
"ปลูกผักในต้นกล้วย"ความชุ่มฉ่ำเหลือเฟือ ไม่ต้องรดน้ำ ผักรสหวาน แถมปลอดภัย

เปิดอ่าน 17,177 ครั้ง
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ
โครงการหลวง 40 ชูไฮไลต์ พืช-ผลไม้ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 28,219 ครั้ง
กฎ  ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูฯ ได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือต่ำกว่าขั้นต่ำฯ ฉบับที่ 2 (2555)

เปิดอ่าน 4,170 ครั้ง
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ

เปิดอ่าน 15,773 ครั้ง
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"

เปิดอ่าน 57,914 ครั้ง
สูตรคูณ
สูตรคูณ

เปิดอ่าน 20,818 ครั้ง
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม
จิงจูฉ่าย สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม

เปิดอ่าน 6,655 ครั้ง
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด
ประโยชน์ของ มะละกอสุก หวานอร่อย ช่วยต้านมะเร็งหลายชนิด

เปิดอ่าน 10,986 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ คำตอบสุดท้ายจะออกมาอย่างไร

เปิดอ่าน 8,450 ครั้ง
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร
ยูฟ่าประกาศห้ามทรูวิชั่นส์ถ่ายทอดบอลยูโร

เปิดอ่าน 15,459 ครั้ง
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน
แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน

เปิดอ่าน 18,678 ครั้ง
ผักสุกมีคุณค่าอาหารสูงกว่าดิบ
ผักสุกมีคุณค่าอาหารสูงกว่าดิบ

เปิดอ่าน 508 ครั้ง
ข้าวฮาง-ข้าวฮางงอก...ข้าวเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาชาวอีสาน
ข้าวฮาง-ข้าวฮางงอก...ข้าวเพื่อสุขภาพ ภูมิปัญญาชาวอีสาน
เปิดอ่าน 31,586 ครั้ง
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
กลยุทธ์การสอนในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
เปิดอ่าน 12,613 ครั้ง
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
แพทย์ไทยวิจัยพบ เถาวัลย์เปรียง รักษาอาการปวด
เปิดอ่าน 20,037 ครั้ง
ผมสวยด้วยผักสวนครัว
ผมสวยด้วยผักสวนครัว
เปิดอ่าน 19,329 ครั้ง
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"
สุดยอดสมุนไพร"รางจืด"ราชายาแก้สารพัดพิษ ต้านมะเร็ง ช่วยลด-เลิก"ยาบ้า"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ