ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ นายจรวย บุญล้อม ครู รร.ท.๒ ตรัง

ชื่อผลงาน : ประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาล

นครตรัง ปีการศึกษา 2557

ลักษณะผลงาน : การประเมินโครงการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่

ผู้ประเมิน : นายจรวย บุญล้อม

รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล ๒ ( วัดกะพังสุรินทร์ ) สังกัดเทศบาลนครตรัง

ปีที่ประเมิน : 2557

บทสรุปผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาลนครตรัง ปีการศึกษา 2557 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินความเหมาะสมของบริบทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมของปัจจัยเบื้องต้นที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการ 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินโครงการ และ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาลนครตรัง ปีการศึกษา 2557 ในเรื่อง (1) คุณธรรม จริยธรรมนักเรียน จำนวน 10 ด้าน ได้แก่ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความขยัน ความซื่อสัตย์ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสะ ความสุภาพ ความยุติธรรม ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวมและความสามัคคี และ (2) คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557 ประกอบด้วย ครู จำนวน 53 คน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1– 5 จำนวน 121 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 5 จำนวน 121 คน โดยใช้ตารางของ Krejcie และ Morgan และใช้การสุ่มแบบง่าย (Sample Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ เป็นแบบสอบถามที่ผู้รายงานได้สร้างขึ้น ข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับแบ่งออกเป็น 4 ชุด คือ ชุดที่ 1 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อบริบทของโครงการ จำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 2 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อปัจจัยนำเข้าของโครงการ จำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 3 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อกระบวนการดำเนินงานตามโครงการ จำนวน 10 ข้อ ชุดที่ 4 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อผลผลิตของโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน จำนวน 20 ข้อ ตอนที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อคุณค่าหรือประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ หาค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินพบว่า

1. บริบทของโครงการมีความเหมาะสม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ข้อ และระดับมาก 3 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โครงการสอดคล้องกับความต้องการของครู ผู้ปกครองและชุมชน รองลงมาคือ โครงการมีความเหมาะสมและมีความจำเป็นในการแก้ปัญหา ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กิจกรรมของโครงการช่วยให้นักเรียนมีการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้ดีขึ้น รองลงมาคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการกำหนดวัตถุประสงค์ และวิธีดำเนินโครงการ

2. ปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 11 ข้อ และอยู่ในระดับมาก 1 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือมีแผนการดำเนินงานตามโครงการอย่างชัดเจน ส่วนข้อ ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม

3. กระบวนการดำเนินงานตามโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ข้อและอยู่ในระดับมาก 3 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการวางแผนการดำเนินโครงการสู่การปฏิบัติ รองลงมาคือ มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบแก่บุคลากรใน การดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ โรงเรียนมีการเผยแพร่และขยายผลการปฏิบัติกิจกรรม สู่ชุมชน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก

4. ผลการประเมินคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาลนครตรัง ปีการศึกษา 2557 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.76 รองลงมาคือ ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.73 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความรับผิดชอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.51 รองลงมาคือ ความยุติธรรม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.55 และเมื่อจำแนกเป็นรายกลุ่ม ผลการประเมินเป็นดังนี้

ครูมีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.59 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ด้านและอยู่ในระดับมาก 1 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.70 รองลงมาคือความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.69 และความซื่อสัตย์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.69 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความยุติธรรม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.47 รองลงมาคือ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 และความขยัน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52

นักเรียนมีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.59 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 7 ด้านและอยู่ในระดับมาก 3 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.77 รองลงมาคือ ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.72 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความรับผิดชอบ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.34 รองลงมาคือ ความขยัน อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.45

ผู้ปกครองนักเรียนมีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.66 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.77 รองลงมาคือ ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.72 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.56 รองลงมาคือ ความซื่อสัตย์ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62

คณะกรรมการสถานศึกษามีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.72 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ด้าน และอยู่ในระดับมาก 1 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความขยันและความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.92 รองลงมาคือ ความรับผิดชอบ และความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.81 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความมีวินัย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.38 รองลงมาคือ ความยุติธรรมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.58 และ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.58

5. คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.54 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 8 ข้อและอยู่ในระดับมาก 2 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.64 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.63 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และ นำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.40 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.47 เมื่อจำแนกตามสถานภาพผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นรายข้อ พบว่า

ครูมีความคิดเห็นว่า คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.57 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.75 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.68 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือสามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และ นำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.38 รองลงมาคือ สามารถเลือกแนวทางและการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.42

นักเรียนมีความคิดเห็นว่า คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.53 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองและครอบครัว อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.63 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และนำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.41 รองลงมาคือสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม และระเบียบข้อบังคับต่างๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.43

โพสต์โดย บัง : [11 ก.พ. 2559 เวลา 20:21 น.]
อ่าน [65738] ไอพี : 110.169.120.83
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,757 ครั้ง
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู

เปิดอ่าน 25,133 ครั้ง
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
คู่มือการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา

เปิดอ่าน 14,678 ครั้ง
โซเชียลแชร์ กระดาษคำตอบแบบใหม่ กันลอกข้อสอบ
โซเชียลแชร์ กระดาษคำตอบแบบใหม่ กันลอกข้อสอบ

เปิดอ่าน 23,692 ครั้ง
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม
ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวสยาม

เปิดอ่าน 34,759 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูปครู พฤติกรรมการสอนของ ครู 59
เดินหน้าปฏิรูปครู พฤติกรรมการสอนของ ครู 59

เปิดอ่าน 21,648 ครั้ง
วันจักรี วันแห่งการระลึกถึงราชวงศ์จักรี 6 เมษายนของทุกปี
วันจักรี วันแห่งการระลึกถึงราชวงศ์จักรี 6 เมษายนของทุกปี

เปิดอ่าน 13,484 ครั้ง
การทดลองน่าทึ่ง เมื่อญี่ปุ่นทดสอบความซื่อสัตย์ของเด็ก ผลปรากฏว่า..
การทดลองน่าทึ่ง เมื่อญี่ปุ่นทดสอบความซื่อสัตย์ของเด็ก ผลปรากฏว่า..

เปิดอ่าน 12,564 ครั้ง
ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???
ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???

เปิดอ่าน 9,645 ครั้ง
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
ตอนนี้สามารถรับประทานเนื้อหมู ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

เปิดอ่าน 2,775 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย ....แก้ไขง่าย ใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ) โดย รัชชัยย์ ศรสุวรรณ
ปัญหาการศึกษาไทย ....แก้ไขง่าย ใช้ทุนน้อยมาก(ถ้าจริงใจ) โดย รัชชัยย์ ศรสุวรรณ

เปิดอ่าน 19,559 ครั้ง
การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง
การสื่อสารของแมลง : การเต้นรำของผึ้ง

เปิดอ่าน 31,242 ครั้ง
"ซอกแจ" เด็กเกาหลีป.4 ที่ถูกเพื่อนๆ เพิกเฉย ไปดูกันว่า คุณครูช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร?
"ซอกแจ" เด็กเกาหลีป.4 ที่ถูกเพื่อนๆ เพิกเฉย ไปดูกันว่า คุณครูช่วยแก้ปัญหานี้อย่างไร?

เปิดอ่าน 25,863 ครั้ง
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม
มาตราวัด มาตราชั่ง กับมาตราเงินของสยาม

เปิดอ่าน 485,928 ครั้ง
สมรรถนะของครู
สมรรถนะของครู

เปิดอ่าน 49,464 ครั้ง
ลมบกและลมทะเล
ลมบกและลมทะเล

เปิดอ่าน 83,861 ครั้ง
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก
9 สุดยอดสัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 19,996 ครั้ง
การย้ายพนักงานงานราชการ
การย้ายพนักงานงานราชการ
เปิดอ่าน 14,262 ครั้ง
ประวัตินาฏศิลป์ไทย
ประวัตินาฏศิลป์ไทย
เปิดอ่าน 14,065 ครั้ง
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
วิเคราะห์จุดอ่อน-แข็ง การถ่ายโอนการศึกษา : เพื่อหาความเป็นไปได้
เปิดอ่าน 10,993 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ: "สิงคโปร์"
ปฏิรูปการศึกษาเรียนรู้จากผู้ประสบความสำเร็จ: "สิงคโปร์"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ