คำสำคัญ : รูปแบบการนิเทศงานวิชาการ/ สมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ / การคิดวิเคราะห์

ลัดดาวัลย์ วิจิตรจินดา : การพัฒนารูปแบบการนิเทศงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการนิเทศงานวิชาการ เพื่อพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน 2) ประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านแหลมทราย) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 4 คน ครูผู้สอน จำนวน 33 คน และนักเรียน จำนวน 747 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ฝ่ายวิชาการ จำนวน 1 คน ครูผู้สอนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ป. 1 – 6 จำนวน 5 คน และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านแหลมทราย) ระดับชั้นละ 30 คน รวม 180 คน กลุ่มตัวอย่างได้มาโดยวิธีการแบบเจาะจงเลือก (Purposive or Judgemental Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบบันทึกการสังเกต แบบประเมิน แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และประเด็นการสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่า ( t-test แบบ dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา ( Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1) รูปแบบการนิเทศงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนเป็นแบบการนิเทศแบบพัฒนาการและการนิเทศโดยผู้บริหารควบคู่กัน มีชื่อว่า ไพพี ( PIPIE Model) ประกอบด้วย หลักการ มุ่งเน้นกระบวนการนิเทศที่เป็นระบบ สัมพันธ์กันและคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ของครูและทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน มีกระบวนการนิเทศ 5 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นเตรียมความรู้/ เทคนิคการจัดการเรียนรู้ (Preparing : P ) ขั้นตอนที่ 2 ขั้นให้ความรู้ก่อนการนิเทศ (Imforming : I ) ขั้นตอนที่ 3 ขั้นเตรียมวางแผนการนิเทศ (Planing : P ) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นดำเนินการนิเทศ ( Implementing : I ) และขั้นตอนที่ 5 ขั้นประเมินผลการนิเทศ ( Evaluating : E ) โดยรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการกำกับติดตาม (Monitoring) อย่างต่อเนื่องทุกขั้นตอน และมีเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้

2) ผลการใช้รูปแบบการนิเทศงานวิชาการเพื่อพัฒนาสมรรถภาพการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนเป็นแบบการนิเทศแบบพัฒนาการและการนิเทศโดยผู้บริหาร ควบคู่กัน พบว่า สมรรถภาพการนิเทศแบบพัฒนาการ โดยครูผู้นิเทศมีสมรรถภาพด้านการนิเทศอยู่ในระดับมาก การนิเทศโดยผู้บริหาร ผู้บริหารมีสมรรถภาพด้านการนิเทศอยู่ในระดับมากที่สุด ครูผู้รับการนิเทศมีสมรรถภาพด้านการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ผู้บริหารสถานศึกษาโดยรองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ ครูผู้นิเทศ และครูผู้รับการนิเทศ มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศแบบพัฒนาการ

และการนิเทศโดยผู้บริหารอยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของครูที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด นักเรียนมีผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการนิเทศงานวิชาการแบบพัฒนาการและการนิเทศโดยผู้บริหารแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยหลังการใช้รูปแบบการนิเทศ นักเรียนมีผลการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ

เว็บน่าสนใจ