บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนดงเย็นพิทยาคาร ที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามวิธีการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-Lingual Method) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร โดยให้จำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนดงเย็นพิทยาคาร ที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามวิธีการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual Method) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนดงเย็นพิทยาคาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 การศึกษา 2558จำนวน 34 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้กลวิธีการฝึกตามวิธีการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-Lingual Method) จำนวน 9 แผน การจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ละ 2 ชั่วโมง รวมเวลา 18 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ทดสอบวัดความก้าวหน้าด้านทักษะการฟังและการพูด ได้แก่ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจร ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดความก้าวหน้าด้านทักษะการฟังและแบบทดสอบวัดความก้าวหน้าด้านทักษะการพูด 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย แบบวัดทักษะการฟัง และแบบวัดทักษะการพูด 4) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกพฤติกรรมการสอนของครู แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนและแบบสัมภาษณ์
รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวงจรปฏิบัติ 3 วงจร วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปการบรรยายเป็นรูปความเรียง
ผลการวิจัย พบว่า
1. ทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนดงเย็นพิทยาคาร ที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-Lingual Method) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษในด้านทักษะการฟังและการพูดสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดให้นักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป กล่าวคือ นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป มีจำนวน 29 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 34 คน คิดเป็นร้อยละ 85.29
2. นักเรียนที่ได้รับกลวิธีการฝึกตามแนวการสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual Teaching Strategies) โดยยึดขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร มีพฤติกรรมการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยภาพรวม ระดับคุณภาพอยู่ในระดับดี ( = 3.50) และรายด้าน ดังนี้ ด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน ระดับคุณภาพ ดีมาก ( = 3.56) ด้านความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ระดับคุณภาพดีมาก ( = 3.56) ด้านความตั้งใจ ระดับคุณภาพดี ( = 3.44) และ ด้านความกระตือรือร้น ระดับคุณภาพดี ( = 3.43)
ABSTRACT
The purposes of the research were 1) to develop English listening and speaking skills for communication of grade VII students Dongyenpittayakan school using Audio-Lingual Method 2) to study the students learning behaviors using Audio-Lingual Method .
The target group consisted of 34 grade VII students in Dongyenpittayakan school under Secondary Education Area Office 20 , during the second semester of 2015 academic year.
The research tools were classified into 4 types : 1) the development tools which were 9 lesson plans based on the Audio-Lingual Method 2) the assessment tools for listening and speaking skills which were quizzes including listening and speaking skills tests 3) the summative evaluation tool which was the English achievement test. 4) the reflecting tools which were the teaching behavior recording form, the student behavior observation form, a student behavior assessment form and a student interview form.
Action research procedure employed comprised of three action spirals. The collected data were analyzed by means of percentage, arithmetic mean, standard deviation. Results of the analysis were presented in a form of summing-up descriptive report.
The findings:
1. For the development of English listening and speaking skills for communication of grade VII students Dongyenpittayakan school using Audio-Lingual Method. The result showed that 29 out of 34 students or 85.29 percentage made an overage learning achievement in English listening and speaking skills for commutation up to 70 percentage or more which was higher than the prescribed learning criterion of 70 percentage.
2. The students expressed a high level in the overall of learning behaviors using Audio-Lingual Method ( = 3.50), a highest level in term on the aspects of the participation ( = 3.56) and the responsibility ( = 3.56a high level on the aspects of ) the attention ( = 3.44) and the activeness ( = 3.43).
กิตติกรรมประกาศ
การวิจัยในครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ลงได้ด้วยความกรุณาอย่างยิ่ง คุณครูปรียนันท์ ดวงแก้ว คุณครูทวีรัตน์ ภวภูตานนท์ และ คุณครูภัทรียา สุระเสน ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์เป็นผู้เชี่ยวชาญ เสียสละเวลาในการให้คำปรึกษา คำแนะนำช่วยเหลือเกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ตลอดจนตรวจสอบแก้ไขปรับปรุงข้อบกพร่องต่างๆของเครื่องมือในการวิจัย จนสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้วิจัยรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณา และขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้
ขอขอบพระคุณ ผู้อำนวยการ จรัสธชัย เสิกภูเขียว ผู้อำนวยการโรงเรียนดงเย็นพิทยาคาร รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนดงเย็นพิทยาคาร อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ที่ให้การสนับสนุน ช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในการทำวิจัยในครั้งนี้
ขอกราบขอบพระคุณ คุณแม่บุญมา พระวิเศษ และบุคคลในครอบครัว ที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ และคอยเป็นกำลังใจอันสำคัญในการทำวิจัยในครั้งนี้มาโดยตลอด คุณค่าและประโยชน์ในงานการวิจัยเล่มนี้ขอมอบแด่คุณพ่อคุณแม่และท่านอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวนาม ณ ที่นี้ ที่กรุณาคอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลือด้วยดีตลอดมา
วิภาวดี มุ่งเกิด