การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เสื้อผ้า น่าสวมใส่ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เสื้อผ้าน่าสวมใส่ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนหลังการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องเสื้อผ้าน่าสวมใส่ ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนตะโหมด จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เสื้อผ้าน่าสวมใส่ จำนวน 4 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาการงานอาชีพ 3 เรื่อง เสื้อผ้าน่าสวมใส่ จำนวน 30ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 ชั่วโมง และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เสื้อผ้าน่าสวมใส่ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 3 จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1) ค่าเฉลี่ย 2) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาพบว่า

1) เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เสื้อผ้าน่าสวมใส่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพร้อยละ 80.32/82.78 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เสื้อผ้าน่าสวมใส่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียนเรื่องเสื้อผ้าน่าสวมใส่ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (X-bar) เท่ากับ 4.51 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.44

เว็บน่าสนใจ