ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรี

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมาย

คำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ชื่อผู้รายงาน กรรณิกา ปันทวัง

ปีการศึกษา ๒๕๕๙

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบทักษะ

การอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๓) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๔) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ

การอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านห้วยขาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต ๑ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๑๓ คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง

มีรูปแบบการศึกษาเป็นแบบกลุ่มเดียวที่มีการวัดผลก่อนเรียนและหลังเรียน (One Group Pretest Posttest Design) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ๑) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๓๔ แผน ๒) แบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๘ เล่ม ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป จำนวน ๓๐ ข้อ ที่มีค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง ๐.๔๐ - ๐.๙๔ ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง ๐.๖๓ - ๐.๘๗ และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ ๐.๙๖

๔) แบบประเมินความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ ๑ และวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน

โดยใช้สถิติ t-test (Dependent samples)

ผลการวิจัยพบว่า

๑. แบบฝึกสำหรับสอนซ่อมเสริมทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีประสิทธิภาพ

๘๔.๒๙/๘๔.๒๙ สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ ที่ตั้งไว้

๒. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ ๑ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑

๓. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีค่าเท่ากับ ๐.๖๕๓๘ แสดงว่า แบบฝึกที่ผู้รายงานสร้างขึ้นทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น เท่ากับ ๐.๖๕๓๘ หรือคิดเป็นร้อย ๖๕.๓๘

๔. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน-เขียนและบอกความหมายคำที่ประสมด้วยสระที่มีหลายรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย กรรณิกา : [20 เม.ย. 2560 เวลา 09:51 น.]
อ่าน [3717] ไอพี : 223.205.134.213
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 44,156 ครั้ง
Verb Tenses (Future Tenses )
Verb Tenses (Future Tenses )

เปิดอ่าน 11,095 ครั้ง
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย
ลดความอ้วน ก็ไม่ยากซะหน่อย

เปิดอ่าน 10,643 ครั้ง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา

เปิดอ่าน 13,812 ครั้ง
 8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010
8 ข่าวสุขภาพที่ไม่ควรลืมประจำปี 2010

เปิดอ่าน 15,759 ครั้ง
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"
การถวายสังฆทานที่ถูกต้อง โดยท่าน "ว.วชิรเมธี"

เปิดอ่าน 37,987 ครั้ง
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!
รักษาฝ้าให้หายขาดได้หรือไม่? ครีมรักษาฝ้าให้หายขาดมีจริงไหม? เราหาคำตอบมาให้แล้ว!

เปิดอ่าน 12,211 ครั้ง
แค่กินอาหารด้วยตะเกียบ ก็ลดน้ำหนักได้ผลชะงัด !
แค่กินอาหารด้วยตะเกียบ ก็ลดน้ำหนักได้ผลชะงัด !

เปิดอ่าน 14,315 ครั้ง
มะขาม มีประโยชน์ต่อผิวและร่างกายของเราอย่างไร?
มะขาม มีประโยชน์ต่อผิวและร่างกายของเราอย่างไร?

เปิดอ่าน 17,416 ครั้ง
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต

เปิดอ่าน 13,720 ครั้ง
สายตาเอียง
สายตาเอียง

เปิดอ่าน 803 ครั้ง
ไขมันในร่างกาย
ไขมันในร่างกาย

เปิดอ่าน 14,318 ครั้ง
กินหมึกสด หมึกดูดปาก ฮาตรึม
กินหมึกสด หมึกดูดปาก ฮาตรึม

เปิดอ่าน 11,846 ครั้ง
ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ใช้งานได้ฟรี ! คลิกที่นี่
ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ใช้งานได้ฟรี ! คลิกที่นี่

เปิดอ่าน 383,488 ครั้ง
ทฤษฎีจิตสังคมของอีริคสัน (Erikson)
ทฤษฎีจิตสังคมของอีริคสัน (Erikson)

เปิดอ่าน 30,005 ครั้ง
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก
ทำไม E = mc กำลัง 2 สมการสะท้านโลก

เปิดอ่าน 18,756 ครั้ง
เธลีส (Thales) นักคณิตศาสตร์
เธลีส (Thales) นักคณิตศาสตร์
เปิดอ่าน 17,510 ครั้ง
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้
เปิดอ่าน 15,517 ครั้ง
ลายมือผู้นำระดับโลก
ลายมือผู้นำระดับโลก
เปิดอ่าน 8,410 ครั้ง
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
ธปท. ยันไม่มีปลอม แบงก์เอทีเอ็ม
เปิดอ่าน 6,689 ครั้ง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ