ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ ๑) เพื่อสร้างแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านสาคร ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านสาคร และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านสาคร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ๕ โรงเรียนบ้านสาคร สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต ๑ ในภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๓๖ คน ที่ผู้รายงานเป็นครูประจำชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ๑) แบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๗ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๑9 แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์คำไทย จำนวน ๑๐ ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติคือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ

ผลการศึกษาพบว่า

๑) ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) มีค่าเท่ากับ ๘4.55 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) มีค่าเท่ากับ ๘2.78 ดังนั้น ประสิทธิภาพของแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องมหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านสาคร ค่าเท่ากับ ๘4.55 /๘2.๗8

๒) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนบ้านสาคร ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 27.17 คิดเป็นร้อยละ 45.28 ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 49.67 คิดเป็นร้อยละ ๘2.๗8 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเฉลี่ย 2๒.50 คิดเป็นร้อยละ 37.50

๓) ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านสาคร เฉลี่ยโดยส่วนรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.70 คิดเป็นร้อยละ ๙4.00

ข้อเสนอแนะ

๑) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ควรนำแบบฝึกเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง มหัศจรรย์คำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ไปประยุกต์ใช้สำหรับเสริมทักษะภาษาไทยเรื่องชนิดของคำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพราะจากผลการศึกษายืนยันได้ถึงความสำเร็จในการนำไปใช้แล้ว คือ การมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๗.๔๑/๘๕.๑๗ สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องชนิดของคำไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

๒) จากการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนพบว่ารายการแบบฝึกหัดมีเนื้อหาเหมาะสมกับเวลา มีระดับความพึงพอใจต่ำสุด ซึ่งอาจอธิบายได้ว่า การออกแบบแบบฝึกและแบบทดสอบต่างๆในแบบฝึกอาจยังมีความไม่เหมาะสมบางประการ จนส่งผลให้นักเรียนยังไม่พึงพอใจมากนัก ดังนั้น ครูผู้สอนหรือผู้ที่ต้องการนำผลการศึกษาไปใช้ควรให้ความสำคัญกับการออกแบบแบบฝึกและแบบทดสอบต่างๆให้มีความเหมาะสมกับเวลา สามารถดึงดูดความสนใจนักเรียนให้ทำงานได้อย่างมีความสุขและเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

เว็บน่าสนใจ