ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ค 23101 คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง พื้นที่ผิวและ

ชื่อผลงาน การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ค 23101 คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยใช้รูปแบบซิปปาร่วมกับบทเรียนโปรแกรม

ผู้รายงาน นายวุฒิพงษ์ ปัญญามา

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

รายงานผลการพัฒนาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ค 23101 คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 3 เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยใช้รูปแบบซิปปาร่วมกับบทเรียนโปรแกรม ใช้เทคนิค

การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ค 23101 คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยใช้รูปแบบซิปปาร่วมกับบทเรียนโปรแกรม

2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียน รายวิชา ค 23101 คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยใช้รูปแบบซิปร่วมกับบทเรียนโปรแกรม และ 3) พัฒนาพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนที่เรียน รายวิชา ค 23101 คณิตศาสตร์ เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร โดยใช้รูปแบบซิปปา กลุ่มเป้าหมาย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มเป้าหมายในการทดลองใช้นวัตกรรมและเครื่องมือประเมินคุณภาพนวัตกรรม คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านอุดมทรัพย์ ปีการศึกษา 2558 จำนวน 16 คน และกลุ่มที่ 2 กลุ่มเป้าหมายในการทดลอง เพื่อศึกษาผลการ

นำนวัตกรรมไปใช้ภาคสนาม คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านอุดมทรัพย์ ปีการศึกษา 2559 จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาและพัฒนาครั้งนี้ แบ่งออกเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปา ประกอบ ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ 18 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกผล หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่มและประเมินผลงาน แบบฝึกหัด และแบบทดสอบท้ายวงจร ส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พื้นที่ผิวและปริมาตร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบปรนัยชนิดลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ หาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าร้อยละ (Percentage) และรายงานผล ในรูปแบบการบรรยาย ผลการศึกษาและพัฒนานวัตกรรม สรุปผลดังนี้

1. ผลการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ รายวิชา ค23101 คณิตศาสตร์ เรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรโดยใช้รูปแบบซิปปาร่วมกับบทเรียนโปรแกรม พบว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้

รูปแบบซิปปาร่วมกับบทเรียนโปรแกรม เป็นกิจกรรมที่นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม แลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจ

กับกลุ่มเพื่อน จนเกิดทักษะที่จำเป็น ในการดำเนินชีวิต และสามารถนำความรู้ประยุกต์ใช้ในชีวิต ประจำวันได้ เป็นรูปแบบการสอนที่มีประสิทธิภาพ มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นทบทวนความรู้เดิม เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้เดิมจากที่เคยเรียนหรือมีประสบการณ์ผ่านมาแล้ว ซึ่งนักเรียนจะต้องตอบคำถามหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กำหนด

ขั้นที่ 2 ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่และทำความเข้าใจข้อมูลเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ ในขั้นนี้ นักเรียนแสวงหาความรู้จากสถานการณ์ปัญหาที่ครูสร้างขึ้นจากบทเรียนโปรแกรม แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยเชื่อมโยงความรู้เดิมให้เข้ากับความรู้ใหม่

ขั้นที่ 3 ขั้นแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจในกลุ่ม กิจกรรมในขั้นนี้ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรับซองกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มละ 1 ชุด ซึ่งในซองกิจกรรมการเรียนรู้จะประกอบด้วย บัตรคำสั่ง

ใบงานกิจกรรมกลุ่ม และปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย โดยนำความรู้ที่ตนเองค้นพบ นำไป

แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนสมาชิกในกลุ่มตนเอง เพื่อจัดทำผลงานกลุ่มให้มีคุณภาพและสร้างสรรค์

ขั้นที่ 4 ขั้นสรุปและจัดระเบียบความรู้ นักเรียนจะต้องสรุปหรือสร้างความคิด รวบยอดเกี่ยวกับความรู้จากเรื่องที่เรียน ครูช่วยสรุป จัดระเบียบความรู้ของนักเรียนให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น

ขั้นที่ 5 ขั้นแสดงผลงาน ให้นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน

เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนในชั้น จากนั้นมีการร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเห็นและสรุป

ความรู้ร่วมกันอีกครั้ง แล้วให้นักเรียนนำผลงานกลุ่มตนเองปรับปรุงแก้ไขจนสมบูรณ์ จัดตกแต่ง

ผลงานให้สวยงามตามความคิดสร้างสรรค์ พร้อมที่จะนำไปจัดแสดงบนป้ายนิเทศหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จเรียบร้อยหรือในชั่วโมงว่าง เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษา เปรียบเทียบ ประเมินผลงานกลุ่มของตนเองกับเพื่อน และนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขผลงานของตนเองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป

ขั้นที่ 6 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ในขั้นนี้ครูจะให้นักเรียน ทำแบบฝึกหัด เพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจของนักเรียนและให้นักเรียนทำเป็นการบ้าน แล้วนำมาส่งครูในวันถัดไป

2. ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 24.00 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 80.00 ของคะแนนเต็ม และมีนักเรียน ผ่านเกณฑ์จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 85.71

3. ผลการพัฒนาพฤติกรรมการทำงานของนักเรียน พบว่า เมื่อสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยทั้งชั้นเท่ากับ 26.35 คิดเป็นร้อยละ 82.34 และมีจำนวนนักเรียน

ที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 70 คิดเป็นร้อยละ 83.33

สรุปได้ว่า การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบซิปปา เป็นแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญที่มีประสิทธิภาพ สามารถใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

และพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนให้สูงขึ้นและผ่านเกณฑ์ที่กำหนดได้

โพสต์โดย wut : [7 พ.ค. 2560 เวลา 10:29 น.]
อ่าน [3449] ไอพี : 171.100.77.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,667 ครั้ง
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้
ริ้วรอยแตกลายลบได้ด้วยว่านหางจระเข้

เปิดอ่าน 11,243 ครั้ง
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว
เด็กแรกเกิด เรียนไวกว่าผู้ใหญ่ มีฐานการเรียนรู้ขณะนอนหลับติดมากับตัว

เปิดอ่าน 8,593 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 18,128 ครั้ง
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์

เปิดอ่าน 126,606 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 1 สนามแข่งขัน (The Pitch)
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 1 สนามแข่งขัน (The Pitch)

เปิดอ่าน 25,484 ครั้ง
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี
เผยเคล็ดลับ อ่านหนังสือแล้วทำอย่างไร ให้จำได้ดี

เปิดอ่าน 20,721 ครั้ง
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"
คลิป "สมรักษ์" แพ้ "จอมโหด"

เปิดอ่าน 85,394 ครั้ง
ADSL คืออะไร?
ADSL คืออะไร?

เปิดอ่าน 15,197 ครั้ง
ตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น
ตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น

เปิดอ่าน 53,954 ครั้ง
อัตลักษณ์ของสถานศึกษา คืออะไร จำเป็นอย่างไร
อัตลักษณ์ของสถานศึกษา คืออะไร จำเป็นอย่างไร

เปิดอ่าน 11,312 ครั้ง
14 สไตล์มรณะ ปัจจัยเสี่ยง "มะเร็ง‏"
14 สไตล์มรณะ ปัจจัยเสี่ยง "มะเร็ง‏"

เปิดอ่าน 336,352 ครั้ง
ความสำคัญของภาษาไทย
ความสำคัญของภาษาไทย

เปิดอ่าน 21,330 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม วันพ่อ
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม วันพ่อ

เปิดอ่าน 14,645 ครั้ง
30 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย ปลดหนี้ก็ง่ายเว่อร์
30 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย ปลดหนี้ก็ง่ายเว่อร์

เปิดอ่าน 14,966 ครั้ง
อะไรคือ "คุณภาพแท้" ของการศึกษา
อะไรคือ "คุณภาพแท้" ของการศึกษา

เปิดอ่าน 21,529 ครั้ง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
ฟอร์บส์จัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ใครติดอันดับปีนี้บ้าง
เปิดอ่าน 26,009 ครั้ง
ฟุตซอล
ฟุตซอล
เปิดอ่าน 31,259 ครั้ง
ประโยชน์ของ e-Learning
ประโยชน์ของ e-Learning
เปิดอ่าน 10,562 ครั้ง
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด
เปิดอ่าน 15,987 ครั้ง
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ