ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย : นางรัชนา แสงเปล่งปลั่ง
โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่วิจัย : ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (3) เพื่อรับรองรูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงาน โดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือ ทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1โดยผู้ทรงคุณวุฒิ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและ พัฒนา (Research and and Development) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 ของโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1 ห้องเรียนรวมจำนวนนักเรียน 50 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับสลากเลือกห้อง เครื่องมือประกอบการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และ ความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น ได้แก่ 1) รูปแบบ การเรียนรู้ ฯ 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองด้านคอมพิวเตอร์ 4) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 5) เกณฑ์การประเมินคุณภาพของผลงานการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แบบรูบริค (Scoring Rubric) 6) แบบประเมินความร่วมมือทางการเรียนรู้ 7) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน และ 8) แบบบันทึกการสะท้อนผลการเรียนรู้ ที่ผู้วิจัยได้สร้างและพัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ (%) การทดสอบ ที (t-test Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
1. รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย หลักการของรูปแบบการเรียนรู้ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ การเรียนรู้ กระบวนการเรียนการเรียนรู้ และเงื่อนไขการนำรูปแบบการเรียนรู้ โดยกระบวนการเรียน การเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ได้แก่ ได้แก่ ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อม (Preparation) ขั้นที่ 2 การรวมกลุ่ม (Grouping) ขั้นที่ 3 การวางแผน (Planning) ขั้นที่ 4 การลงมือปฏิบัติ (Action) ขั้นที่ 5 การนำเสนอ (Presentation) และขั้นที่ 6 การประเมินผล (Evaluation) ซึ่งจากการทดสอบประสิทธิภาพ พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.54/83.95 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 และสอดคล้องกับสมมติฐาน ที่ตั้งไว้
2. ผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า การรับรู้ความสามารถของตนเองด้านคอมพิวเตอร์ของนักเรียน ของนักเรียนก่อนและหลังใช้รูปแบบการเรียนรู้หลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คุณภาพของผลงานการสร้างหนังสืออิเล็กอิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ความร่วมมือทางการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด และความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการรับรองรูปแบบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้คอมพิวเตอร์สนับสนุนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และความร่วมมือทางการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.69 และ มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.42 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ พบว่า มีความเหมาะสมมากที่สุด และสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้