ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
กระบวนการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างความสามารถการทำวิจ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความสามารถการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาหลังการใช้กระบวนการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ 2) เพื่อศึกษาคุณภาพรายงานวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยาหลังการใช้กระบวนการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา จำนวน 696 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูโรงเรียนเมืองพัทยา 5 (บ้านเนินพัทธยาเหนือ) ปีการศึกษา 2559 จำนวน 63 คน ซึ่งได้จากการเลือกแบบเจาะจง และชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ ประกอบด้วย ครูพี่เลี้ยงจากโรงเรียนเมืองพัทยา 11 (มัธยมสาธิตพัทธยา) จำนวน 12 คน ผู้นิเทศภายใน จำนวน 2 คน ศึกษานิเทศก์ จำนวน 3 คน และผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 2 คน ขั้นตอนของกระบวนการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 วางแผนวิจัย ประเมินและสะท้อนคิด ขั้นที่ 2 ดำเนินการวิจัยตามแผน ขั้นที่ 3 ตรวจสอบการดำเนินงานตามแผน พร้อมสะท้อนคิด และ ขั้นที่ 4 ปรับปรุงแก้ไขจากการประเมินและการสะท้อนคิด เครื่องมือทดลอง คือ คู่มือการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ เครื่องมือวิจัย คือ แบบประเมินความสามารถการทำวิจัยในชั้นเรียน แบบประเมินคุณภาพรายงานวิจัยในชั้นเรียน และแบบบันทึกการสะท้อนคิด วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าเฉลี่ย และร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบดังนี้

1.หลังการใช้กระบวนการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพครูในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา โดยรวม มีความสามารถทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนอยู่ในระดับดี

2. หลังการใช้กระบวนการนิเทศโดยใช้วงจรเดมมิ่งผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ คุณภาพของรายงานวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา โดยรวมอยู่ในระดับดี จำแนกเป็น รายงานวิจัยร้อยละ 20.63 อยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 50.79 อยู่ในระดับดี และ ร้อยละ 28.57 อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อจำแนกตามรายการหัวข้อรายงานวิจัยที่ครูผู้สอนส่วนมากทำได้ดีแล้ว คือ ชื่อหัวข้อวิจัย อยู่ในระดับดีที่สุด นอกนั้นอยู่ในระดับดี

จากการสะท้อนคิดของครูต่อการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน พบว่า ครูมีความมั่นใจ และเข้าใจในการทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะการตั้งชื่อหัวข้อวิจัย การเขียนวัตถุประสงค์ การสรุป อภิปรายและข้อเสนอแนะ ครูมีความรู้สึกว่างานวิจัยทำได้ง่ายและมีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน และมีความพึงพอใจต่อการให้คำชี้แนะและเป็นพี่เลี้ยงของชุมชนแห่งการเรียนรู้เชิงวิชาชีพ ทำให้ครูสามารถทำงานวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนได้จนสำเร็จ

โพสต์โดย รังสิมา จันทะโชติ : [8 ส.ค. 2560 เวลา 13:35 น.]
อ่าน [3482] ไอพี : 58.181.163.7
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,267 ครั้ง
15 เรื่องกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
15 เรื่องกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 15,543 ครั้ง
ชำยอดอ่อนควบแน่น เคล็ดวิชาปราชญ์ชาวบ้าน
ชำยอดอ่อนควบแน่น เคล็ดวิชาปราชญ์ชาวบ้าน

เปิดอ่าน 7,597 ครั้ง
ลองอ่าน"เมื่อเฟซบุ๊คเฉลยปริศนา เพราะอะไรเราจึงไม่มีปุ่มคลิก"dislike"(ไม่ชอบ) ให้พวกคุ
ลองอ่าน"เมื่อเฟซบุ๊คเฉลยปริศนา เพราะอะไรเราจึงไม่มีปุ่มคลิก"dislike"(ไม่ชอบ) ให้พวกคุ

เปิดอ่าน 9,955 ครั้ง
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน

เปิดอ่าน 16,846 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 42,051 ครั้ง
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ

เปิดอ่าน 49,294 ครั้ง
ยาสตรี คืออะไร?
ยาสตรี คืออะไร?

เปิดอ่าน 24,294 ครั้ง
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ
รู้ไหม? ทำไมดาวอังคารไม่มีชั้นบรรยากาศ

เปิดอ่าน 10,385 ครั้ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง

เปิดอ่าน 19,903 ครั้ง
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา
การทดลอง LHC ของเซิร์น ที่คล้องกับพุทธศาสนา

เปิดอ่าน 13,347 ครั้ง
น้ำตกแปลก แหวกแนว มหัศจรรย์ลีลาแห่งสายน้ำ
น้ำตกแปลก แหวกแนว มหัศจรรย์ลีลาแห่งสายน้ำ

เปิดอ่าน 17,825 ครั้ง
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022
ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ ตามกรอบการประเมิน PISA 2022

เปิดอ่าน 54,633 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้
ทฤษฎีการเรียนรู้

เปิดอ่าน 9,339 ครั้ง
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข

เปิดอ่าน 57,999 ครั้ง
6 ผัก-ผลไม้ ที่กินแล้วดี ช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลแถมคุมความดัน
6 ผัก-ผลไม้ ที่กินแล้วดี ช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลแถมคุมความดัน

เปิดอ่าน 17,321 ครั้ง
แนวทางการเยี่ยมบ้านนักเรียน
แนวทางการเยี่ยมบ้านนักเรียน
เปิดอ่าน 12,308 ครั้ง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง
เปิดอ่าน 13,493 ครั้ง
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
เปิดอ่าน 22,153 ครั้ง
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม
เปิดอ่าน 22,719 ครั้ง
5 สิ่งที่มนุษย์ต้องมี ก่อนเป็นส่วนเกินในสังคมหุ่นยนต์
5 สิ่งที่มนุษย์ต้องมี ก่อนเป็นส่วนเกินในสังคมหุ่นยนต์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ