ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

ชื่อผลงาน การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน และการเรียนรู้ร่วมกัน เ

ชื่อผลงาน การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน และการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาการสื่อสารและ

การเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อ – นามสกุล ราตรี จันทคุต

ปีที่วิจัย 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาการสื่อสารและการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาการสื่อสารและการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นโดย 2.1) เปรียบเทียบความสามารถในด้านการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนจากรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2.2) เปรียบเทียบความสามารถในด้านการสื่อสารทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนจากรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน และการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2.3) เปรียบเทียบความสามารถในด้านการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่เรียนจากรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่ที่เรียนจากรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้ร่วมกัน โดยใช้กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร จำนวน 43 คน เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาการสื่อสารและการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (T – Test Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กระตุ้นความสนใจด้วยการเผชิญปัญหาที่ท้าทาย 2) ปฏิบัติอย่างกระตือรือร้น เพื่อสืบค้นหาความรู้ 3) ร่วมกันตรวจสอบความรู้ดูมติกลุ่ม 4) นำไปประยุกต์

2. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยบูรณาการแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐานและการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาการสื่อสาร และการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

โพสต์โดย ครูราตรี : [18 ส.ค. 2560 เวลา 10:12 น.]
อ่าน [66005] ไอพี : 61.7.240.66
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,873 ครั้ง
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ

เปิดอ่าน 112,771 ครั้ง
มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )
มรรค 8 ( อัฏฐังคิกมรรค )

เปิดอ่าน 30,730 ครั้ง
ไมยราบไร้หนาม
ไมยราบไร้หนาม

เปิดอ่าน 104,337 ครั้ง
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 23,550 ครั้ง
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร
อึ้ง!! สมุนไพรไทย 2,000 ตำรับ รักษามะเร็งได้จริง เตรียมเผยแพร่ผ่านหมอพื้นบ้านกันต่างชาติขโมยสูตร

เปิดอ่าน 11,291 ครั้ง
27ก.ย.2555 Google ครบรอบ 14 ปีกูเกิล Search Engine
27ก.ย.2555 Google ครบรอบ 14 ปีกูเกิล Search Engine

เปิดอ่าน 21,782 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ

เปิดอ่าน 15,783 ครั้ง
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 13,325 ครั้ง
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?
"ข้าวหลามดง" ไม่ใช่อาหาร แต่มันคืออะไร?

เปิดอ่าน 45,197 ครั้ง
การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น
การทำวิจัยทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้น

เปิดอ่าน 14,551 ครั้ง
สูด "ควันบุหรี่มือสอง" แค่ 30 นาทีมีสิทธิเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
สูด "ควันบุหรี่มือสอง" แค่ 30 นาทีมีสิทธิเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

เปิดอ่าน 735 ครั้ง
รวม 7 อาชีพหารายได้หลังเกษียณ ใช้เวลาว่างให้มีค่า
รวม 7 อาชีพหารายได้หลังเกษียณ ใช้เวลาว่างให้มีค่า

เปิดอ่าน 23,451 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 33,282 ครั้ง
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา
ทำไมคนเราต้องกระพริบตา

เปิดอ่าน 23,496 ครั้ง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง
วิธีจัดห้องเพื่อพัฒนาสมอง

เปิดอ่าน 27,546 ครั้ง
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์
วิธีลดต้นขา แบบญี่ปุ่น ง่ายๆ ไม่เสียตังค์
เปิดอ่าน 11,221 ครั้ง
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
9 มิ.ย.ของทุกปีเป็น "วันรัฐพิธี" ตามมติ ครม.
เปิดอ่าน 23,979 ครั้ง
ดวงจันทร์ (Moon)
ดวงจันทร์ (Moon)
เปิดอ่าน 23,794 ครั้ง
คลิปรายการ "เปิดปม" กรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย รีบดูครับ
คลิปรายการ "เปิดปม" กรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย รีบดูครับ
เปิดอ่าน 16,695 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ