ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน/ความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ

คำสำคัญ: การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน/ความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ

ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเคมีเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา

อย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6

ผู้วิจัย : นางยุพาภรณ์ บุ่งวิเศษ

ตำแหน่ง: ครู

สถานที่ทำการวิจัย: โรงเรียนบัวขาวอำเภอกุฉินารายณ์จังหวัดกาฬสินธุ์

ปีรายงานการวิจัย: ปีการศึกษา2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1.เพื่อการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเคมี เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 2. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเคมีเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 3. เพื่อเปรียบความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6ก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเคมีเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่64. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนเคมีเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยกำหนดรูปแบบการทดลองแบบหนึ่งกลุ่มทดสอบก่อนเรียนและ หลังเรียน (One–Group Pretest Posttest Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7โรงเรียนบัวขาว จำนวน 44 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนเคมี

เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6แผนการจัดการเรียนรู้แบบประเมินความสอดคล้องของรูปแบบการเรียนการสอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบการเรียนกาสอนที่พัฒนาขึ้นนี้มีชื่อว่า PERCEA Model โดยมีองค์ประกอบ ดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการเรียนการสอน รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีกระบวนการเรียนรู้ 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเตรียมความพร้อม (Preparation : P)เป็นขั้นที่ผู้สอนตั้งกระตุ้น ให้ผู้เรียนได้แสดงออกถึงความเข้าใจเดิมที่มีอยู่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียนโดยการใช้เทคนิคที่หลากหลาย เช่นระดมสมองอภิปรายกลุ่ม หรือใช้สถานการณ์จำลอง 2) ขั้นวิเคราะห์ปัญหา (Analysis : A ) เป็นขั้นที่สำคัญของการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยขั้นตอนย่อย4 ขั้นคือ2.1)ขั้นระบุปัญหาหมายถึงความสามารถในการบอกปัญหาที่สำคัญที่สุดภายในขอบเขตขอข้อเท็จจริงจากสถานการณ์ที่กำหนดให้2.2)ขั้นวิเคราะห์ปัญหาหมายถึงความสามารถในการบอกสาเหตุที่เป็นไปได้ของปัญหาจากข้อเท็จจริงตามสถานการณ์2.3)ขั้นเสนอวิธีการคิดแก้ปัญหาหมายถึงความสามารถในการหาวิธีการคิดแก้ปัญหาให้ตรงกับสาเหตุของปัญหา2.4 )ขั้นตรวจสอบผลลัพธ์หมายถึงความสามารถอธิบายผลที่เกิดขึ้นหลักจากการใช้วิธีการคิดแก้ปัญหาในข้อ2.3ได้ว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร3) ขั้นสะท้อนความคิด (Reflection: R)คือการอธิบายสิ่งที่ตนเองคิดจากการปฏิบัติหรือจากการได้สังเกตและฟังเพื่อนพูดสิ่งที่จำได้จากกระบวนการคิดความรู้สึกภาพจินตนาการเจตคติทักษะความคิดที่เกิดขึ้นได้จากการเรียนรู้อะไรบ้าง4) ขั้นสรุป (Conclusion: C ) เป็นขั้นที่ผู้เรียนสรุปผลจากการเรียนรู้ที่ได้จากการศึกษาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันมาสรุปเป็นผังความคิดหรือโครงงานโครงการเขียนตอบบรรยายเขียนรายงาน5) ขั้นประเมินผล (Evaluation : E) เป็นขั้นที่ผู้เรียนตรวจสอบความรู้ใหม่ที่ได้จากการขั้นสรุปว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ 6) ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (Application : A ) เป็นขั้นนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

2.ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของ รูปแบบการเรียนการสอนเคมีเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6เท่ากับ 88.00/84.42 เมื่อเทียบกับเกณฑ์ 80 / 80 ปรากฏว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

3. ความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเคมีเพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนเคมี

เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ยุพาภรณ์ บุ่งวิเศษ : [24 ส.ค. 2560 เวลา 07:53 น.]
อ่าน [63956] ไอพี : 159.192.222.245
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,529 ครั้ง
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน
เคล็ดลับ!! เติมพลังใจคนวัยทำงาน

เปิดอ่าน 2,228 ครั้ง
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้
การอาบน้ำเกิน 10 นาที สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวหนังได้

เปิดอ่าน 11,139 ครั้ง
วิธีง่าย ๆ ในการเผาผลาญแคลอรีนอกยิม
วิธีง่าย ๆ ในการเผาผลาญแคลอรีนอกยิม

เปิดอ่าน 16,788 ครั้ง
มงคลชีวิต ทำบุญ ไหว้พระ ตามวัน-ปีเกิด ยิ่งดี!
มงคลชีวิต ทำบุญ ไหว้พระ ตามวัน-ปีเกิด ยิ่งดี!

เปิดอ่าน 212,745 ครั้ง
บทบาทของครู
บทบาทของครู

เปิดอ่าน 13,167 ครั้ง
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ
อยากเพิ่มหรือลดน้ำหนัก... 10 สีนี้ช่วยได้นะ

เปิดอ่าน 42,579 ครั้ง
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก
รู้ไว้ใช่ว่า...อัตราค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก

เปิดอ่าน 90,066 ครั้ง
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)
โรงเรียนร่วมพัฒนา(Partnership School)

เปิดอ่าน 24,260 ครั้ง
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"
อ่านกันชัดๆ ที่นี่ "อยากเป็นครู ทำอย่างไร?"

เปิดอ่าน 13,727 ครั้ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง
22 จานเด็ด ลดเสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 13,335 ครั้ง
ตับของเธอ สบายดีไหม?
ตับของเธอ สบายดีไหม?

เปิดอ่าน 16,689 ครั้ง
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้
ไม่อยากเป็นโรคกระดูกพรุน น้ำมะเขือเทศช่วยได้

เปิดอ่าน 8,494 ครั้ง
ราชภัฏกับธนาคาร
ราชภัฏกับธนาคาร

เปิดอ่าน 15,431 ครั้ง
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด
ใส่ใจการ "เคี้ยวอาหาร" กันสักนิด

เปิดอ่าน 10,304 ครั้ง
เพราะเหตุใด? หนุ่มญี่ปุ่นจึงโพสต์เตือนคนไทย อาจแห้วงานเพราะเฟซบุ๊ก!
เพราะเหตุใด? หนุ่มญี่ปุ่นจึงโพสต์เตือนคนไทย อาจแห้วงานเพราะเฟซบุ๊ก!

เปิดอ่าน 25,754 ครั้ง
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"
ลายมือแบบไหนคือ "ลายมือเสน่ห์นิยม"
เปิดอ่าน 19,757 ครั้ง
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
มาฝึกสมาธิเบื้องต้นกันดีกว่า
เปิดอ่าน 83,818 ครั้ง
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี
เปิดอ่าน 18,711 ครั้ง
ทำไมไข่เยี่ยวม้าจึงมีสีดำ
ทำไมไข่เยี่ยวม้าจึงมีสีดำ
เปิดอ่าน 15,460 ครั้ง
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ