ชื่อเรื่องวิจัย ผลของการจัดการเรียนการสอนผ่านชุดกิจกรรมในรายวิชาเคมีด้วยวิธีการสืบเสาะหาความรู้

(5Es)โดยใช้การทดลองเป็นฐาน ที่มีต่อการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นเบื้องต้น

และเชิงซ้อนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา

ผู้วิจัย นายกนกเทพ เมืองสง

สถานศึกษา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา

ปีการศึกษา 2560

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่องผลของการจัดการเรียนการสอนผ่านชุดกิจกรรมในรายวิชาเคมีด้วยวิธีการสืบเสาะหาความรู้ (5Es)โดยใช้การทดลองเป็นฐาน ที่มีต่อการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นเบื้องต้นและเชิงซ้อนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา มีจุดมุ่งหมายในการวิจัยคือ 1. เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนการสอนผ่านชุดกิจกรรมในรายวิชาเคมีด้วยวิธีการสืบเสาะหาความรู้(5Es)โดยใช้การทดลองเป็นฐานที่มีต่อการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นเบื้องต้นและเชิงซ้อน 2. เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการระหว่างทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ หลังจากการใช้ชุดกิจกรรม โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1, 5/2 และ 5/3 รวมจำนวนทั้งสิ้น 91 คน ใช้ระยะเวลาในการทดลองทั้งหมด 14 สัปดาห์ ด้วยวิธีการสอนแบบวิธีการสืบเสาะหาความรู้(5Es)โดยใช้การทดลองเป็นฐาน ซึ่งในชุดกิจกรรมที่ใช้ในการวิจัยนั้นจะประกอบด้วยการทดลองทั้งหมด 12 การทดลอง แบ่งเป็นบทปฏิบัติการทดลอง 8 การทดลองและการสาธิต 4 การทดลอง จากการศึกษาพบว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดลองทั้งในด้านทักษะการตีความและลงข้อสรุป, ทักษะการทดลอง, ทักษะการสังเกตและทักษะการจัดกระทำข้อมูล มีคะแนนเฉลี่ยหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

จากผลการวิเคราะห์ร้อยละของนักเรียนที่ได้คะแนนในระดับต่างๆหลังการทดลองพบว่า นักเรียนร้อยละ 100 มีทักษะการสังเกตและการจัดกระทำข้อมูลอยู่ในระดับสูง นักเรียนร้อยละ 93.4 มีทักษะการทดลองในระดับสูงและร้อยละ 6.6 มีทักษะการทดลองในระดับค่อนข้างสูง นักเรียนร้อยละ 35.2 มีทักษะการตีความและลงข้อสรุปในระดับสูง ร้อยละ 63.5 มีทักษะการตีความและลงข้อสรุปในระดับค่อนข้างสูง และนักเรียนร้อยละ 1.1 ทักษะการตีความและลงข้อสรุปในระดับค่อนข้างต่ำ

จากผลการวิเคราะห์คะแนนพัฒนาการของนักเรียนพบว่านักเรียนมีพัฒนาการด้านทักษะการทดลองและทักษะการตีความและลงข้อสรุปอยูในระดับสูงมาก โดยมีคะแนนพัฒนาการอยู่ที่ร้อยละ 69.8และ68.06 ตามลำดับ นักเรียนมีพัฒนาการด้านทักษะการสังเกตและทักษะการจัดกระทำข้อมูลอยู่ในระดับต้น โดยมีคะแนนพัฒนาการอยู่ที่ร้อยละ24.1 และ 3.3 ตามลำดับ จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีพัฒนาการด้านทักษะการทดลองสูงที่สุด และมีพัฒนาการด้านการจัดกระทำข้อมูลต่ำที่สุด

เว็บน่าสนใจ