การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกดตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด 3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน โรงเรียนน่านปัญญานุกูล จังหวัดน่าน ปีการศึกษา 2559 จำนวน 7 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกการอ่านและเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรูภาษาไทย จำนวน 4 เล่ม แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านการเขียนคำ ที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการศึกษา พบว่า

1. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 77.46 / 76.53

2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน มีผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน มีผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำที่มีสะกดไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน อยู่ในระดับ มาก ค่าเฉลี่ย 4.47 ค่า SD 0.46

เว็บน่าสนใจ