ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนัก

บทคัดย่อ

การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนา แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ด้านทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้ วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้

แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านเนินมะปราง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 43 คน ได้มาโดยใช้การสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 15 ชุด 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ใช้วัดก่อนเรียนและหลังเรียน) และ แบบทดสอบทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ใช้วัดระหว่างเรียน) รวมทั้งสิ้น16 ฉบับ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ (Dependent Samples t–test)

ผลการพัฒนาพบว่า

1. ผลการสร้างและการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้งหมด

15 ชุด มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกชุด มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.52 - 4.59 และผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้

แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กับนักเรียน 3 กลุ่มมีดังนี้

หาประสิทธิภาพของแบบฝึกฯ กับนักเรียนกลุ่มเล็ก (12 คน) พบว่า มีประสิทธิภาพ 76.29/75.67 หาประสิทธิภาพของแบบฝึกฯ กับนักเรียนทั้งชั้นเรียน (42 คน) พบว่า มีประสิทธิภาพ 77.45/75.81

และผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกฯ กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง (43 คน) พบว่า มีประสิทธิภาพ 78.81/76.33

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าคะแนนการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวม นักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59

โพสต์โดย อ้อ : [11 เม.ย. 2561 เวลา 12:43 น.]
อ่าน [102484] ไอพี : 182.53.214.165
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,065 ครั้ง
"มะระ" ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!
"มะระ" ป้องเบาหวาน-จัดการริดสีดวง!

เปิดอ่าน 35,315 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 162,071 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้ Constructivism
ทฤษฎีการเรียนรู้ Constructivism

เปิดอ่าน 269,901 ครั้ง
มาตรฐานวิชาชีพครู
มาตรฐานวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 14,066 ครั้ง
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม

เปิดอ่าน 2,812 ครั้ง
รวม 3 ยี่ห้อนมโปรตีนสูง อร่อยทานง่าย ดีต่อสุขภาพ 2024
รวม 3 ยี่ห้อนมโปรตีนสูง อร่อยทานง่าย ดีต่อสุขภาพ 2024

เปิดอ่าน 9,995 ครั้ง
คู่มือการดำเนินของนักจิตวิทยาโรงเรียนประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการดำเนินของนักจิตวิทยาโรงเรียนประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 11,387 ครั้ง
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก
จุฬาฯ ฉลอง อันดับ 138 มหาวิทยาลัย ชั้นนำของโลก

เปิดอ่าน 12,636 ครั้ง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโอนโรงเรียนให้ท้องถิ่น

เปิดอ่าน 15,119 ครั้ง
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น
คนขับรถเมล์ เป็นลมขณะขับรถ ผู้โดยสารช่วยกันประคองรถวุ่น

เปิดอ่าน 33,105 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): การเตะจากจุดโทษ
ฟุตซอล(Futsal): การเตะจากจุดโทษ

เปิดอ่าน 13,267 ครั้ง
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์
พบสัตว์ประหลาดทะเลลึกเฉียด 2 หมื่นสายพันธุ์

เปิดอ่าน 21,450 ครั้ง
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)
ระเบียบการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน นอกเหนือจากเงินเดือน (2)

เปิดอ่าน 13,330 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษานับหนึ่งใครเป็นใคร
ปฏิรูปการศึกษานับหนึ่งใครเป็นใคร

เปิดอ่าน 244,922 ครั้ง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง
เทคโนโลยี มีกี่ระดับอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 21,736 ครั้ง
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
2012 วันสิ้นโลก จริงหรือ?
เปิดอ่าน 30,703 ครั้ง
หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน ว 333
หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน ว 333
เปิดอ่าน 24,372 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง แก๊ส LPG และ ก๊าซ NGV
ความแตกต่างระหว่าง แก๊ส LPG และ ก๊าซ NGV
เปิดอ่าน 31,640 ครั้ง
ภาษาฝรั่งเศส
ภาษาฝรั่งเศส
เปิดอ่าน 2,107 ครั้ง
SEO คืออะไร? การแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับดี ๆ บน Google
SEO คืออะไร? การแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับดี ๆ บน Google

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ