ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาและศึกษาผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระ

บทคัดย่อ

เรื่อง รายงานผลการพัฒนาและศึกษาผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ

การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

ผู้ศึกษา นางวงษ์ตะวัน หล้าล้ำ

สถานศึกษา โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ ๑๙๐ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓

ปีการศึกษา ๒๕๖๐

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ (๒) เพื่อศึกษาผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ และ (๓) เพื่อประเมินความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่างเพื่อการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ คือ (๑) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๔ โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ ๑๙๐ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๓ คน ใช้สำหรับการทดสอบทีละคน (One to One Testing) และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๔ โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ ๑๙๐ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๖ คน ใช้สำหรับการทดสอบกลุ่มเล็ก (Small Group Testing) และ (๒) กลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษาผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะและประเมินความพึงพอใจ ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างสำหรับการทดสอบภาคสนาม (Field Testing) คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๔ โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ ๑๙๐ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ จำนวน ๒๓ คน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ (๑) แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๙ เล่ม (๒) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ จำนวน ๒๗ แผน (๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ ๓ ตัวเลือก จำนวน ๔๐ ข้อ (๔) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของแบบฝึกเสริมทักษะแต่ละเล่ม และ (๕) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีความสอดคล้อง ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก ค่าความเชื่อมั่น ค่าประสิทธิภาพ (x- ) ของแบบฝึกเสริมทักษะตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ค่าดัชนีประสิทธิผล และสถิติทดสอบค่าที (t-test) แบบกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระจากกัน (Dependent Samples)

ผลการศึกษาพบว่า

๑. แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ที่พัฒนาขึ้น โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 85.53/87.50 ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้

๒. ผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ประกอบด้วย

๒.๑ แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ โดยภาพรวมมีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 85.53/87.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

๒.๒ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๔ โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ ๑๙๐ สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕

๒.๓ ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒โดยภาพรวมมีค่าเท่ากับ ๐.๖๕๐๑ แสดงว่า นักเรียนมีอัตราความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ๐.๖๕๐๑ หรือคิดเป็นร้อยละ ๖๕.๐๑

๓. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๔ โรงเรียนกาบเชิงมิตรภาพที่ ๑๙๐ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านและการเขียนคำยากตามบัญชีคำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ อยู่ในระดับพอใจมาก

โพสต์โดย วงษ์ตะวัน หล้าล้ำ : [29 เม.ย. 2561 เวลา 10:08 น.]
อ่าน [5218] ไอพี : 223.24.185.77
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 269,526 ครั้ง
Adverbs การทำให้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Formation )
Adverbs การทำให้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ (Formation )

เปิดอ่าน 12,915 ครั้ง
ปรับลดเวลาเรียนเป็นสิ่งที่ดีมาก...ถ้าปรับหลักสูตรด้วย
ปรับลดเวลาเรียนเป็นสิ่งที่ดีมาก...ถ้าปรับหลักสูตรด้วย

เปิดอ่าน 19,267 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือการปฏิบัติงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 21,972 ครั้ง
คุณสมบัติของ e-Learning
คุณสมบัติของ e-Learning

เปิดอ่าน 19,720 ครั้ง
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มรดกวัฒนธรรม
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มรดกวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 23,483 ครั้ง
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี
วิธีรับมือกับแก๊สน้ำตา และสารเคมี

เปิดอ่าน 27,879 ครั้ง
งูพิษกัด
งูพิษกัด

เปิดอ่าน 18,905 ครั้ง
เกมส์วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN
เกมส์วันเกิด 30 ปีของ PAC-MAN

เปิดอ่าน 142,804 ครั้ง
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์

เปิดอ่าน 14,749 ครั้ง
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น
วิธีทำให้ความจำดีขึ้น

เปิดอ่าน 18,453 ครั้ง
การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา

เปิดอ่าน 41,600 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู

เปิดอ่าน 18,901 ครั้ง
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร
เฉาก๊วยทำมาจากอะไร

เปิดอ่าน 11,476 ครั้ง
โรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์

เปิดอ่าน 19,447 ครั้ง
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
13 เรื่องจริงของสุนัขที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

เปิดอ่าน 16,592 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เปิดอ่าน 18,255 ครั้ง
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร
รู้หรือไม่ว่า 10 ข้อที่เด็กทุกคนในโลกนี้ต้องการมากที่สุดคืออะไร
เปิดอ่าน 12,016 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
เปิดอ่าน 14,973 ครั้ง
โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
โกรธบ่อยโรคเพียบแน่ สุขภาพแย่ชัวร์ !
เปิดอ่าน 13,489 ครั้ง
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ