บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การเคลื่อนที่ ร่วมกับการจัดการเรียนรู้ด้วยวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนควนขนุน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนควนขนุน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนควนขนุน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 34 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการเคลื่อนที่ จำนวน 7 ชุด แบบทดสอบย่อยท้ายชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 7 ชุด ชุดละ 10 ข้อ แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีรูปแบบการสอนแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น จำนวน 7 แผน ใช้เวลา 18 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบมาตราประมาณค่า 5 ระดับ การรวบรวมข้อมูลทั้งหมดโดยผู้ศึกษา ผู้ศึกษาได้ตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือตามขั้นตอนดังนี้ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพเพื่อหาประสิทธิภาพ E1/E2 ดังนี้ หาประสิทธิภาพรายบุคคล(1:1) หาประสิทธิภาพรายบุคคล(1:10) หาประสิทธิภาพภาคสนาม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ นำแผนการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ หาค่าความยากง่ายและอำนาจจำแนก หาค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตร คูเดอร์ ริชาร์ดสัน 4) แบบทดสอบย่อยท้ายชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นำแบบทดสอบย่อยท้ายชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ หาค่าความยากง่ายและอำนาจจำแนก หาค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตร คูเดอร์ ริชาร์ดสัน 5) แบบประเมินความพึงพอใจ นำแบบประเมินความพึงพอใจให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความสอดคล้อง หาค่าความเชื่อมั่นตามวิธีของ Cronbach โดยใช้ Alpha Cofficient จากนักเรียนจำนวนจำนวน 3 ครั้งกับนักเรียน 3 คน 10 คน และ 30 คนตามลำดับ แล้วจึงนำเครื่องมือทั้งหมดที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วไปทดลองใช้กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนควนขนุน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 นักเรียนจำนวน 34 คน โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในครั้งนี้คือ ค่าร้อยละ ค่าที (t-test) ค่าคะแนนเฉลี่ย ( ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การเคลื่อนที่ มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 โดยมีประสิทธิภาพ 82.56/81.25 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภายหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการเคลื่อนที่ สูงกว่าก่อนได้รับการสอน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ความพึงพอใจของนักเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การเคลื่อนที่ อยู่ในระดับดีมาก โดยทุกรายการมีความพึงพอใจอยู่ในระดับดี

เว็บน่าสนใจ