ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาแนวทางการพัฒนาระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความดีความชอบข้าราชการ และพนักงาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหา และค้นคว้าหาแนวทางการจัดทำหลักเกณฑ์การประเมินผลงานของข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัย สายสนับสนุนวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ประชากรที่ใช้ศึกษา คือ บุคลากรคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ช่วง คือ

- ช่วงแรก เป็นการหาข้อมูลเพื่อศึกษาสภาพปัญหาต่างๆ ของระบบประเมินผลงาน โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) ใช้กลุ่มตัวอย่างจากบุคลากรคณะวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 30 คน ประกอบด้วยกลุ่ม อาจารย์ ข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มที่เป็นผู้ประเมิน และกลุ่มผู้ถูกประเมินอย่างละเท่าๆ กันโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ (Systematic Sampling) อัตราส่วนระหว่างจำนวนกลุ่มตัวอย่างต่อประชากร 1:10

- ช่วงที่ 2 เป็นแบบสอบถาม เพื่อกำหนดค่าน้ำหนักคะแนนของดัชนีการประเมินผล ในขั้นตอนนี้ศึกษาจากประชากรโดยตรงของข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัย จำนวนทั้งสิ้น 22 คน ประกอบด้วยบุคลากรตำแหน่งต่างๆ ดังนี้คือ 1. พนักงานวิทยาศาสตร์ , 2. ครู (ช่วยสอน) , 3. นายช่างเทคนิคต่างๆ , 4. วิศวกรภาควิชา และ 5. นักวิชาการคอมพิวเตอร์ประจำภาควิชา

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1. แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In - depth interview) ใช้สำหรับ ศึกษาสภาพปัญหาต่างๆ ของระบบประเมินผลงานในช่วงแรก และ 2. แบบสอบถาม ใช้กำหนด ค่าน้ำหนักคะแนนของดัชนีการประเมินผลงานของกลุ่มข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัย สำหรับในช่วงที่ 2 โดยใช้รูปแบบของการศึกษาวิจัยในเชิงคุณภาพ (Qualitative research) และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์ประเด็นที่ศึกษา และการตีความเพื่อสรุป โดยนำเสนอข้อมูลในลักษณะของการพรรณนา (Descriptive Research) โดยการสอดแทรกตารางประกอบการนำเสนอข้อมูล

จากการศึกษาวิจัย สามารถสรุปผลได้ 2 หัวข้อหลักดังนี้

1. ข้อมูลในเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องต่อสภาพการณ์ของระบบการประเมินผลงาน

2. ดัชนี และหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ประเมินผลงานของข้าราชการ และพนักงาน

1. ข้อมูลในเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องต่อสภาพการณ์ของระบบการประเมินผลงาน

จากผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาที่เกิดจากระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน มีเหตุปัจจัยอยู่ด้วยกัน 3 ประการ คือ 1. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาของผู้ประเมิน 2. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาของผู้ถูกประเมิน และ 3. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่ส่งผลกระทบจากกฎระเบียบ

1. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาของผู้ประเมิน พบว่า มีปัญหาอยู่ด้วยกัน 3 สาเหตุ คือ 1.1 การประเมินผลงานในส่วนของการให้คะแนนไม่ได้สะท้อนถึงคุณภาพที่แท้จริงในผลงานของผู้ถูกประเมิน 1.2 ผู้ประเมินต้องประเมินผลงานของผู้ถูกประเมินที่ปฏิบัติงานไม่สัมพันธ์กัน แต่มีฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาที่จำเป็นต้องประเมิน และ 1.3 การประเมินผลงาน จำเป็นต้องนำเหตุ และปัจจัยหลายประการที่เป็นบริบทของการทำงานนำมาคิดวิเคราะห์ซึ่งเป็นนามธรรม ไม่สามารถวัด และตีคุณค่าออกมาในเชิงตัวเลขได้

2. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพปัญหาของผู้ถูกประเมิน พบว่า มีปัญหาอยู่ด้วยกัน 7 สาเหตุ คือ 2.1 มาตรฐานการให้คะแนนของผู้ประเมิน 2.2 การตีค่าน้ำหนักการให้คะแนนของ ผู้ประเมิน 2.3 ภาระงานที่ประเมินไม่สอดคล้องกับมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง 2.4 การประเมินนอกเหนือจากภาระงานที่กำหนด 2.5 จำนวนของผู้ประเมิน 2.6 การแจ้งรายละเอียดผลการประเมิน 2.7 การคิดคะแนนสะสมในรอบ 10 ปี

3. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่ส่งผลกระทบจากกฎระเบียบ พบว่า ระเบียบที่นำมาประเมินผลงานฉบับดังกล่าว เป็นการวัดผลสัมฤทธิ์ที่มุ่งไปสู่การวัดความสำเร็จของบุคคลมากว่า การวัดผลสัมฤทธิ์ที่มุ่งไปสู่ความสำเร็จขององค์กรในภาพรวม

2. ดัชนี และหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ประเมินผลงานของข้าราชการ และพนักงาน

จากผลการวิจัย สามารถสรุปผลได้ดังนี้ คือ ข้าราชการ และพนักงานมหาวิทยาลัยหลังถูกยุบรวมบุคลากรตำแหน่งครู (ผู้ช่วยสอน) และตำแหน่งนายช่างเทคนิคต่างๆ ทำให้เหลือกลุ่มบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการรวมทั้งสิ้น 4 ตำแหน่ง ได้แก่ พนักงานวิทยาศาสตร์ ช่างเทคนิคต่างๆ วิศวกร และพนักงานคอมพิวเตอร์ภาควิชา ดังนั้น คณะกรรมการร่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์ได้พิจารณาทั้ง 4 ตำแหน่งแล้วเห็นว่า ลักษณะงาน และภาระงานมีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน จึงมีมติให้ใช้แบบประเมินที่เหมือนกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ดัชนีของภารงานที่ใช้ประเมิน ได้แก่ 1.1 งานช่วยสอนปฏิบัติการ และควบคุมปฏิบัติการ 1.2 งานจัดซื้อ จัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอน 1.3 งานซ่อมบำรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ 1.4 งานบริการทางวิชาการ 1.5 การวางแผนการปฏิบัติงาน 1.6 การพัฒนาปรับปรุงงาน

2. การกำหนดหัวข้อ และหลักเกณฑ์ในแต่ละด้านของการประเมินสามารถสรุปผลได้ดั้งนี้ คือ 2.1 หลักเกณฑ์ในด้านคุณภาพและความสามารถ มีค่าน้ำหนักเท่ากับ 40 คะแนน 2.2 หลักเกณฑ์ในด้านปริมาณงาน มีค่าน้ำหนักเท่ากับ 40 คะแนน 2.3 หลักเกณฑ์ในด้านมนุษย์สัมพันธ์ มีค่าน้ำหนักเท่ากับ 20 คะแนน

3. การกำหนดผู้ประเมินผลงาน และการกำหนดน้ำหนักเปอร์เซ็นต์ของผู้ประเมิน สามารถ สรุปผลได้ดั้งนี้ คือ 3.1 หัวหน้าภาควิชา มีน้ำหนักการประเมินเท่ากับ 40 % 3.2 รองหัวหน้าภาควิชา มีน้ำหนักการประเมินเท่ากับ 25 % 3.3 อาจารย์ผู้ควบคุมปฏิบัติการ มีน้ำหนักการประเมินเท่ากับ 35 %

4. การกำหนดค่าดัชนีการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการทั้ง 4 ตำแหน่ง สามารถ สรุปผลได้ดั้งนี้ คือ 4.1 งานช่วยสอนปฏิบัติการ และควบคุมปฏิบัติการ 4.2 งานจัดซื้อ จัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอน 4.3 งานซ่อมบำรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ 4.4 งานบริการทางวิชาการ และ 4.5 การวางแผนการปฏิบัติงาน กำหนดให้ประเมินเฉพาะ ดัชนีด้านคุณภาพ กับดัชนีในด้านของเวลา ส่วน 4.6 การพัฒนาปรับปรุงงาน กำหนดให้ประเมินเฉพาะ ดัชนีคุณภาพ กับดัชนีในด้านของปริมาณงาน

5. การกำหนดคุณลักษณะหรือพฤติกรรมในการปฏิบัติงานของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการทั้ง 4 ตำแหน่ง สามารถสรุปผลได้ดั้งนี้ คือ 5.1 วันลาป่วยและลากิจสะสม มีคะแนนเต็ม เท่ากับ 5 คะแนน และ 5.2 การมาสายกลับก่อนมีการคิดคะแนนสะสมเท่ากับ 5 คะแนน

6. การกำหนดคะแนนสะสม ในรอบปีที่ผ่านมา สามารถ สรุปผลได้ดั้งนี้ คือ 6.1 ถ้าในรอบปีที่ผ่านมาประเมินได้ 2 ขั้นจะไม่มีคะแนนสะสม 6.2 ถ้าในรอบปีที่ผ่านมาประเมินได้ 1.5 ขั้น จะมีคะแนนสะสม อยู่ 7.5% และ 6.3 ถ้าในรอบปีที่ผ่านมาประเมินได้ 1 ขั้นจะมีคะแนนสะสม เท่ากับ 15%

โพสต์โดย ฉัตรชัย...! : [11 ส.ค. 2561 เวลา 20:15 น.]
อ่าน [3567] ไอพี : 119.46.191.18
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,255 ครั้ง
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์

เปิดอ่าน 13,314 ครั้ง
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก 17 ประการ

เปิดอ่าน 17,379 ครั้ง
เปิดตัวแสตมป์ ในหลวงฉลองพระองค์สูทสีชมพู 12 ธ.ค.
เปิดตัวแสตมป์ ในหลวงฉลองพระองค์สูทสีชมพู 12 ธ.ค.

เปิดอ่าน 14,746 ครั้ง
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์

เปิดอ่าน 9,655 ครั้ง
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน
คลิปการทดลองน่าทึ่ง เมื่อคนแปลกหน้าขอแบ่งของกินจากขอทาน

เปิดอ่าน 9,571 ครั้ง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นปี 2558 "เชือกวิเศษ" "รักนะเป็ดโง่" ติดอันดับดาวรุ่งพุ่งแรง
"กูเกิล"เผยสุดยอดคำค้นปี 2558 "เชือกวิเศษ" "รักนะเป็ดโง่" ติดอันดับดาวรุ่งพุ่งแรง

เปิดอ่าน 52,115 ครั้ง
แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาของไทย
แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษาของไทย

เปิดอ่าน 13,581 ครั้ง
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว
วิธีล้างคราบน้ำชาที่ติดแก้ว

เปิดอ่าน 31,837 ครั้ง
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"
10 สมุนไพรไทย ประโยชน์เยอะ ช่วยบรรเทา "โรคความดันสูง"

เปิดอ่าน 17,215 ครั้ง
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"

เปิดอ่าน 133,137 ครั้ง
รวมพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา
รวมพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการศึกษา

เปิดอ่าน 22,571 ครั้ง
เฉลยข้อสอบผิด! บทเรียนในอดีต และปัจจุบัน
เฉลยข้อสอบผิด! บทเรียนในอดีต และปัจจุบัน

เปิดอ่าน 15,703 ครั้ง
อนามัยโลกเตือนไม่ควรดื่มเครื่องดื่ม "ร้อนเกินไป"
อนามัยโลกเตือนไม่ควรดื่มเครื่องดื่ม "ร้อนเกินไป"

เปิดอ่าน 15,709 ครั้ง
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%
ยาคุมแบบฉีด ทำมวลกระดูกเสื่อมอย่างน้อย 5%

เปิดอ่าน 14,406 ครั้ง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง
ที่แท้ ซีอิ๊ว ก็มีต้นกำเนิดจากน้ำปลาบ้านเรานี่เอง

เปิดอ่าน 12,399 ครั้ง
ฮอตมาก อาจารย์สถาปัตย์ มทร.ศรีวิชัย ดัดแปลงเพลงฮิต "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ทวงการบ้านนักศึกษา
ฮอตมาก อาจารย์สถาปัตย์ มทร.ศรีวิชัย ดัดแปลงเพลงฮิต "ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" ทวงการบ้านนักศึกษา
เปิดอ่าน 26,977 ครั้ง
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย
ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการเก็บข้อมูลของการวิจัย
เปิดอ่าน 3,641 ครั้ง
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
กรมอนามัยแนะนำเด็กไทย ดื่มนมจืด 2 แก้ว ทุกวัน เพิ่มความสูงได้
เปิดอ่าน 13,493 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการจดทะเบียนเป็นสมาชิกคุรุสภา พ.ศ.2553
เปิดอ่าน 13,972 ครั้ง
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร
การซักแห้งดีกว่าการซักน้ำอย่างไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ