ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

เรื่องการพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้

เรื่องลำดับและอนุกรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นายศุภกร บุญเผย ครูโรงเรียนพระแก้ววิทยา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33

ปีที่ทำการวิจัย ปี พ.ศ. 2561

บทคัดย่อ

คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับความคิดของมนุษย์ สื่อการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ครูควรจัดสื่อและกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัย ความสนใจ และความสามารถของเด็ก คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล การเรียนการสอนจะต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน นักเรียนมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างนักเรียนด้วยกัน การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ คือ 1) เพื่อพัฒนาชุดการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่องลำดับและอนุกรม วิชาคณิตศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่องลำดับและอนุกรม 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้ชุดการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ 4) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อชุดการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนพระแก้ววิทยา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 20 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี 3 ชนิด ได้แก่ ชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ จำนวน 5 ชุด ใช้เวลา 17 คาบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากรายข้อ ตั้งแต่ .21 ถึง .78 ค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ .26 ถึง .83 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .87 และแบบวัดเจตคติที่มีต่อการใช้ชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ จำนวน 20 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ .37 ถึง .78 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการเรียนรู้ โดยใช้ t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม วิชาคณิตศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.75/87.70 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 75/75

2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.81626 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียน 81.62%

3. นักเรียนที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. ผลการศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียน

แบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีเจตคติอยู่ในระดับมาก

โดยสรุป ชุดการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นวิธีการเรียนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ เรื่อง ลำดับและอนุกรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้

โพสต์โดย นายศุภกร บุญเผย : [6 พ.ค. 2562 เวลา 18:54 น.]
อ่าน [63568] ไอพี : 223.207.172.212
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,510 ครั้ง
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4

เปิดอ่าน 791 ครั้ง
วิธีกระตุ้นรากผม แก้ปัญหาผมบาง เสริมสร้างความมั่นใจ
วิธีกระตุ้นรากผม แก้ปัญหาผมบาง เสริมสร้างความมั่นใจ

เปิดอ่าน 21,985 ครั้ง
กินรสจืด ยืดชีวิต
กินรสจืด ยืดชีวิต

เปิดอ่าน 24,867 ครั้ง
มารู้จัก nano sim ...ซิมแบบใหม่ใน iPhone 5
มารู้จัก nano sim ...ซิมแบบใหม่ใน iPhone 5

เปิดอ่าน 13,850 ครั้ง
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์
ชำแหละ"กล้องสปาย"สู่ขบวนการทุจริตสอบแพทย์

เปิดอ่าน 37,152 ครั้ง
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ
6 ข้อต้องรู้! รบ.แจงผ่อนปรน นั่งแค็บ-ท้ายกระบะ

เปิดอ่าน 28,541 ครั้ง
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?
เทรนด์ชุดนักศึกษาแบบตัวใหญ่ไม่รัดติ้ว กำลังจะกลับมา จริงหรือ?

เปิดอ่าน 3,466 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 19,668 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง "รมว.ศึกษาฯ" กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)
รับชมย้อนหลัง "รมว.ศึกษาฯ" กับนโยบายแก้ปัญหา โรงเรียน ICU จากรายการ ผชิญหน้า FaceTime (8 ก.พ. 2560)

เปิดอ่าน 47,022 ครั้ง
พรหมวิหาร 4
พรหมวิหาร 4

เปิดอ่าน 14,396 ครั้ง
อยากหน้าเด็ก สดใส! สธ.ชวนนั่ง"สมาธิ" ยาอายุวัฒนะสุขภาพกายและใจ
อยากหน้าเด็ก สดใส! สธ.ชวนนั่ง"สมาธิ" ยาอายุวัฒนะสุขภาพกายและใจ

เปิดอ่าน 23,510 ครั้ง
ทั่วโลกยอมรับ นร.เก่งได้เพราะครูเก่ง
ทั่วโลกยอมรับ นร.เก่งได้เพราะครูเก่ง

เปิดอ่าน 20,251 ครั้ง
มะระจีน
มะระจีน

เปิดอ่าน 4,539 ครั้ง
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร
"ส้นเท้าแตก" เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร

เปิดอ่าน 31,385 ครั้ง
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน
การนำ e - Learning ไปใช้ประกอบกับการเรียนการสอน

เปิดอ่าน 124,316 ครั้ง
จินตคณิต สูตรคิดเร็ว สูตรคณิต คิดเร็ว
จินตคณิต สูตรคิดเร็ว สูตรคณิต คิดเร็ว
เปิดอ่าน 16,481 ครั้ง
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา
รายงานพัฒนาคุณภาพการศึกษา
เปิดอ่าน 11,326 ครั้ง
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา
เปิดอ่าน 23,645 ครั้ง
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
เปิดอ่าน 12,039 ครั้ง
นวดเองก็ได้ ..ง่ายจัง
นวดเองก็ได้ ..ง่ายจัง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ