|
|
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อใช้และศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
วิธีดำเนินการวิจัยและพัฒนาแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
ดำเนินการโดยผู้วิจัยได้ให้ผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ตรวจสอบความเหมะสมขององค์ประกอบต่างๆของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แล้วนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปทดลองใช้กับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อปรับปรุงและหาประสิทธิภาพ ให้ได้ตามเกณฑ์ 80/80 เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 ชุด (2) แบบประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบต่างๆของชุดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ E1/E2 ขั้นตอนที่ 2 การใช้และศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวังทองพิทยาคม จังหวัดพิษณุโลก ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 26 คน โดยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 ชุด (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมี สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมี โดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความเหมาะสมขององค์ประกอบต่างๆของชุดกิจกรรมเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.44 , S.D. = 0.15) และมีประสิทธิภาพ 81.69/82.63 ซึ่งได้ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อ การจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการแก้ปัญหาโจทย์คำนวณเคมีโดยใช้เทคนิค STAD เรื่อง ปริมาณสัมพันธ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.71 , S.D.= 0.21)
|
โพสต์โดย วรนุช ทองเพชร : [31 พ.ค. 2562 เวลา 06:52 น.] อ่าน [4805] ไอพี : 223.207.247.115
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 12,269 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,345 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,798 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,440 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,424 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,929 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,711 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 43,342 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,882 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,353 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,042 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,932 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,800 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,675 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,300 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 10,058 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,001 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,733 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,192 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,165 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|